วันที่ 5 เมษายน 2564 เวลา 10.00 น. ได้มีชาวบ้านทราบว่าเป็นชาวบ้านหมู่ที่ 7 ตำบลงิ้วราย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้เดินทางมาที่ศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรี กว่า 30 ราย เพื่อมายื่นจดหมายร้องเรียนต่อ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี โดยผู้ว่าฯได้มอบหมายให้ นายณัฐพล ธานีรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พ.อ.ชายธนัญชา วาจรัต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสิงห์บุรี (ฝ่ายทหาร) และ นางสาวภคพร ข้องหลิม ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสิงห์บุรี มารับมอบจดหมายร้องเรียนแทน
นายวิศณุ นวลนุช , นางณัฐธิดา เสือยอด และ นางมาลี คูเขตต์ไพศาล ตัวแทนกลุ่มผู้ร้องเรียน ระบุถึงข้อความในจดหมายว่า ขอความชัดเจนในเรื่องการทำงานของกองทุนหมู่บ้าน ที่มีอดีตประธานกองทุนหมู่บ้าน คือ นายนรินทร แตงทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านได้มีพฤติกรรมส่อไปทางที่อาจไม่โปร่งใส ดังนี้
1. มีการแต่งตั้งกรรมการกองทุนขึ้นมาเองโดยไม่มีการลงมติที่ประชุม
2.เอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวญาติพี่น้องตนเอง โดยผิดระเบียบกองทุน
3.ประธานอนุมัติเงินกู้เอง โดยไม่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการ (ไม่มีมติจากที่ประชุม)
4.ตั้งแต่ปี 2559 เก็บดอกเบี้ยจากสมาชิกแล้วไม่นำส่งเข้าธนาคาร
5.เก็บสมุดบัญชีที่ควรจะต้องอยู่กับสมาชิกนั้นเก็บเอาไว้เอง
6.โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน ตามแนวทางประชารัฐ ได้รับมาเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท การดำเนินงานส่อไปในทางไม่โปร่งใส กล่าวคือโครงการไม่เสร็จสิ้นภายในกำหนด
7.สมาชิกกองทุนส่งดอกเบี้ยทุกปีอย่างตรงเวลาเพียงเพื่อหวังว่าในครั้งหน้าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอีก หรือชาวบ้านคนอื่นที่ยังไม่ได้กู้แล้วต้องการจะกู้ จะได้มีเงินต้นและดอกเบี้ยในกองทุนมาหมุนเวียนให้กู้ แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ผู้กู้ส่งเงินไปแต่เงินไม่มีเข้าบัญชีจนถูกธนาคารปิดบัญชีเพราะไม่มีเงินหมุนเวียนในบัญชี และในแต่ละปีไม่มีการประชุมชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
นางมาลี คูเขตต์ไพศาล ตัวแทนผู้ที่มาร้องเรียนได้กล่าวว่า ตนมีตำแหน่งเลขาฯ ของกองทุนหมู่บ้านหมู่ที่ 7 โดยล่าสุดมีการประชุม นายนรินทร แตงทอง ได้กล่าวในที่ประชุมว่า เงินส่วนที่ขาดหายไปในปี 2559 และปี 2560 นายนรินทร ได้เอาชื่อของ ภรรยาและพี่น้องมาใส่เป็นผู้กู้เพื่อให้เต็มจำนวนวงเงินที่หายไป และจะเป็นผู้รับผิดชอบเงินทั้งหมด
ต่อมานายนรินทร ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกองทุนหมู่บ้าน แต่เอกสารของผู้กู้ทั้งหมด หรือรายละเอียดต่างๆ ไม่มีการส่งมอบ โดยที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเอกสารอยู่ที่ไหน จำนวนเงินทั้งหมดอยู่ที่ไหน และกองทุนหมู่บ้านจะไปต่อยังไง เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น จะทำยังไง ใครจะรับผิดชอบ ไม่มีใครมาให้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้เลย
มีเพียงจดหมายตอบจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภออินทร์บุรี โดยนางศิริลักษม์ เหมาะพิชัย นายอำเภออินทร์บุรี สรุปเพียงว่า นายนรินทร ที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่เข้าข่ายประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านเพียงเท่านั้น ซึ่งพวกชาวบ้านไม่ได้ต้องการคำตอบแบบนี้ แต่อยากได้คำตอบว่า กองทุนหมู่บ้านจะทำอย่างไรต่อไป เงินหายไปไหน และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเป็นบทสรุปของการกระทำความผิดมากกว่านี้ จะได้ไม่เป็นตัวอย่างกับกองทุนหมู่บ้านอื่นในการบริหารกองทุนต่อไป
นายณัฐพล ธานีรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวว่า จะให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสิงห์บุรี ได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงและจะดำเนินตามขั้นตอนต่อไป
by : ณัฏฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าว ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
Comments
No related posts.