โควิดคร่าชีวิตคนสิงห์บุรีเพิ่มอีก สลดวันนี้..ดับ 3 รายรวด รวมยอดสะสม 45 รายแล้ว‼️

          วันที่ 6 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าจะมีการฌาปณกิจผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 3 ราย รายแรก ผู้เสียชีวิตเป็นผู้สูงอายุเพศชาย อายุ 85 ปี อยู่ที่ ต.เชิงกลัด อ. บางระจัน แจ้งกับทีมสอบสวนโรคว่า ไม่ทราบว่าสัมผัสผู้ติดเชื้อจากใคร แต่ไปตลาดไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย มีอาการผิดปกติมาตรวจพบเชื้อโควิด -19 ในวันที่ 25 ส.ค. 64 ผลปรากฏพบเชื้อโควิด-19 และรักษาตัวที่ รพ.อินทร์บุรี ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 64

          อาการแรกรับ รู้สึกตัวดี ไอ ไม่เหนื่อย ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. 64 ผู้ป่วยเริ่มมีอาการเหนื่อยหอบ ออกซิเจนในร่างกายต่ำ ต้องให้ออกซิเจน และแจ้งญาติได้รับทราบอาการและแผนการรักษาของแพทย์ และร่วมตัดสินใจในการรักษา ญาติปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจ และการปั๊มหัวใจ

          ผู้เสียชีวิตอาการทรุดหนักจนมาเสียชีวิต วันที่ 5 ก.ย.64 เวลา 17.15 น. ทางญาติทราบเวลาเสียชีวิตจึงฝากศพไว้ห้องเก็บศพ และนำมาฌาปนกิจใน วันที่ 6 ก.ย. 64 ณ วัดโบสถ์ อ. อินทร์บุรี จ. สิงห์บุรี เวลา 10.00 น. ถือเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2111 และเป็นผูเสียชีวิตรายที่ 43 ของจังหวัดสิงห์บุรี

          ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เพศชาย อายุ 54 ปี อยู่ที่ ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี เดิมทีเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนอยู่ระหว่างการฉายแสง ตรวจพบว่าติดเชื้อวันที่ 25 ส.ค.64 ได้สัมผัสผู้ป่วยโควิดที่ รพ.มะเร็งลพบุรี

          และเข้ารับการรักษาที่ รพ.สิงห์บุรี ในวันที่ 25 ส.ค. 64 ด้วยเป็นโรคมะเร็งอยู่เดิม จึงทำให้เสียชีวิตลงอย่างรวดเร็ว ใน วันที่ 5 ก.ย. 64 เวลา 20.00 น. ทางญาติได้ศพมาฌาปณกิจที่วัดกุฎีทอง อ.พรหมบุรี เวลา 14.00 น. ถือเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2108 และเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 44 ของจังหวัดสิงห์บุรี

          ผู้เสียชีวิตรายที่ 3 เป็นเพศชายอายุ 81 ปี อยู่ที่ ต.หัวไผ่ อ.เมือง ตรวจพบเชื้อ เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 64 มาเข้ารับการรักษา ที่ รพ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 14 ส.ค.64 เดิมทีมีโรคประจำตัว เบาหวาน ไขมัน ความดันโลหิตสูง อัลไซเมอร์ และปาร์กินสัน และมาเสียชีวิต ในวันที่ 6 ก.ย. 64 เวลา 02.10 น. เสียชีวิตจาก ปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด ทางญาติได้นำศพมาณาปณกิจที่วัดโพธิ์แก้วนพคุณในเวลา 10.30 น. ถือเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 1548 และเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 45 ของจังหวัดสิงห์บุรี

          โดยทั้ง 3 วัด ที่ได้ทำการฌาปณกิจนั้น ได้ทำตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักพระพุทธศาสนา