THAI TIME สิงห์บุรี

รพ.สิงห์บุรี ตั้งโต๊ะแถลง แจงข้อมูลละเอียดยิบ กรณีปรากฏข่าวญาติข้องใจ เหตุตายเพราะถอนฟัน 12 ซี่..ระบุผู้ป่วยมีหลายโรครุมเร้าอยู่ก่อนแล้ว

139 Views
          จากกรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชน เกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี โดยทางญาติสงสัยว่า อาจจะมีสาเหตุมาจากการถอนฟัน จำนวน 12 ซี่นั้น
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 15.00 น. โรงพยาบาลสิงห์บุรี ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงสาเหตุของการเสียชีวิตผู้ป่วยรายดังกล่าว โดยมีนายแพทย์โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี และ นายแพทย์สุรัตน์ ส่งวิรุฬห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี ได้ชี้แจง ทำความเข้าใจพร้อมกับนำญาติผู้เสียชีวิตมาร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
          นายแพทย์สุรัตน์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตที่เข้ารับการรักษามีอายุ 64 ปี ผู้ป่วยเคยได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยใน ข้อมูลเฉพาะ 5 ปีย้อนหลัง ระหว่างวันที่ 12 พย. 2562 ถึงปัจจุบัน 6 ครั้ง ด้วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง เกลือแร่ผิดปกติ ซีดจากโรคเรื้อรัง มีน้ำในช่องท้อง ปอดอักเสบ อุบัติเหตุทางสมองและศีรษะ ตับแข็ง ไข้สูง เฉียบพลันและมีการคั่งของเสียในไต
          ครั้งสุดท้ายวันที่ 16-26 เมย. 2566 วินิจฉัยว่า มีการติดเชื้อในกระแสโลหิต ตับแข็ง มีน้ำในช่องท้อง ไตวายเฉียบพลัน เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ขีดจากการขาดธาตุเหล็ก ข้ออักเสบ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเพื่อสับสน
          วันที่ 12 พค. 2566 ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการอ่อนเพลีย ผลเลือดผิดปกติ แพทย์จึงให้รักษาตัวในโรงพยาบาล โดยวินิจฉัยว่า มีการติดเชื้อในกระแสโลหิต ตับแข็ง มีน้ำในช่องท้อง ไตวายเฉียบพลัน เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ซีดจากการขาดธาตุเหล็ก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และรักษาจนอาการดีขึ้น
          วันที่ 15 พค. 2566 ผู้ป่วยมีไข้ ผลตรวจไวรัสโควิด-19 เป็นลบ อ่อนเพลีย รับประทานอาหารได้ลดลง เริ่มสับสนทางสมองจากโรคตับแข็ง รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ อาหารทางสายยาง เลือดและเกลือแร่ต่างๆ จนสามารถรับประทานอาหารทางปากได้ด้วยตนเอง
          วันที่ 22 พค. 2566 แพทย์ตรวจพบ ฟันผุหลายซี่ ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสโลหิต
          วันที่ 23 พค. 2566 แพทย์ผู้รักษา ได้ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินการติดเชื้อในช่องปาก พบว่าผู้ป่วยมีฟันผุลึกทะลุโพรงประสาทฟัน ฟันตาย โรคปริทันต์อักเสบรวม 16 ซี่ จึงพิจารณากำจัดสาเหตุการติดเชื้อ ลดสภาวะการติดเชื้อ และลดโอกาสการดำเนินโรคที่จะรุนแรงมากขึ้น
          โดยวางแผนถอนฟันทั้งหมด 16 ซี่ ภายใต้ยาชาเฉพาะที่ 2 ครั้ง พร้อมกับอธิบายแผนการรักษาให้ผู้ป่วยทราบโดยตรง ขณะที่มีสติสัมปชัญญะดีและผู้ป่วยยินยอมรักษา ถอนฟันครั้งแรก 4 ซี่ หลังถอนฟัน ไม่มีเลือดออกผิดปกติ
          วันที่ 24 พค.2566 ตรวจเลือดเพื่อประเมินระดับเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือดก่อนการถอนฟัน ผลเลือดปกติโดยมีภาวะซีด จึงให้เลือด 1 ถุงก่อนถอนฟัน ทันตแพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อลดความเจ็บปวด ถอนฟันที่เหลือและเย็บปิดแผลถอนฟันเพื่อ ห้ามเลือด ให้ผู้ป่วยกัดผ้าก๊อซนาน 2 ชั่วโมง สังเกตอาการที่แผนกทันตกรรม 30 นาที ไม่พบเลือดออกผิดปกติในช่องปาก จึงส่งผู้ป่วย กลับหอผู้ป่วย
          เวลา 18.15 น. ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยตอบคำถามได้ มีเลือดออกซึมจากแผลถอนฟัน รายงานแพทย์เวร ปรับการรักษา โดยให้ผู้ป่วยกัดผ้าก๊อซที่ชุบยาช่วยห้ามเลือดบริเวณที่ถอนฟัน แนะนำว่าหากผ้าก๊อซเปียกชุ่ม ให้แจ้งพยาบาลเพื่อเปลี่ยนใหม่ให้
          เวลา 22.00 น. พยาบาลเข้าเยี่ยม ผู้ป่วยบ้วนก้อนเลือดหลุดออกมา จึงรายงานและปรึกษาแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ปรับการรักษาโดยเพิ่มยา ห้ามเลือดชนิดฉีด ชนิดกิน และชนิดกลั้วปาก หลังจากนั้น เลือดซึมจากแผลลดลง อาการทั่วไปคงที่
          เวลา 23.30 น. พยาบาลเห็นเลือดที่จับผ้าก๊อซเริ่มแข็งตัวและไม่เพิ่มจากเดิม ได้ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อโรคและน้ำเกลือเพิ่มเติม
          วันที่ 25 พค. 2556 เวลา 2.00 น. พยาบาลประเมินผู้ป่วย รู้สึกตัวดี สื่อสารได้ ในช่องปากไม่มีเลือดซึมเพิ่มเติม
          เวลา 6.00 น. พยาบาลไปเจาะเลือด ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยดี ผ้าก๊อซมีเลือดอยู่ตรงกลางไม่เต็มแผ่น ค่าความดันโลหิตลดลงเล็กน้อย ชีพจรเต้นเร็ว เล็กน้อย พยาบาลจึงให้ออกซิเจนทางรูจมูก ฉีดยาปฏิชีวนะและสารน้ำเพิ่มเติมตามแผนการรักษา
          เวลา 7.00 น. ผู้ป่วยบอกหายใจไม่สะดวก เริ่มซึมลง มีเลือดซึมออกมาจากปาก วัดค่าความเข้มข้นของออกซิเจนที่ปลายนิ้วพบว่าต่ำกว่าปกติ จึงรีบให้ออกซิเจนผ่านทางหน้ากากจนกลับมาปกติ สังเกตอาการใกล้ชิด อธิบายญาติทราบข้อมูล ปรึกษาหารือเรื่องแนวทางการรักษาและพยากรณ์โรค ญาติตัดสินใจแสดงความประสงค์ตามเนื้อหาใน หนังสือแสดงเจตนาขอเลือกรับบริการทางการแพทย์ในวาระสุดท้ายของชีวิต เพื่อขอจากไปตามวิถีธรรมชาติ
          โดยไม่ต้องการ การใส่ท่อช่วยหายใจ การใช้เครื่องช่วยหายใจ การเจาะคอ การช่วยฟื้นคืนชีพเมื่อหัวใจหยุดเต้น (กดหน้าอก ปั้มหัวใจ) และการใช้ยาเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต
          เวลา 8.00 น. ญาติผู้ป่วยแจ้งว่า ผู้ป่วยเรียกไม่รู้สึกตัว หายใจหอบ มีเลือดออกที่ปากและจมูก รีบรักษาโดยจัดท่าให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น ดูดเสมหะและเลือดในช่องปากออก รายงานแพทย์และให้การ รักษาแบบประคับประคองตามแนวทางที่ญาติผู้ป่วยต้องการ
          เวลา 8.30 น.ผู้ป่วยถึงแก่กรรม ด้วยสาเหตุ การติดเชื้อในกระแสโลหิต โดยมีโรคร่วมอื่นๆ ได้แก่ ภาวะตับแข็ง โรคถุงลมโป่งพอง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฟันผุทะลุถึงโพรงประสาทฟัน ฟันตายและโรคปริทันต์อักเสบ
          นายแพทย์สุรัตน์ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้ทำความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งทางครอบครัวเข้าใจและไม่ติดใจเอาความ ด้วยเดิมทีผู้ป่วยมีอาการทรงๆ ทรุดๆ และมีโรครุมเร้าอยู่ก่อนแล้ว
…………………………….
By : โสภิดา เผือกพันธุ์ (ผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี)

Comments

comments