วันที่ 8 พฤษภาคม 2561 เวลา 09.00 น. จังหวัดปทุมธานี จัดพิธีเททองหล่อพระปทุมธรรมราช (องค์จำลอง) ณ โรงหล่อแหลมสิงห์ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี โดยมีดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายธวัชชัย ศรีทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัด นายศิริศักดิ์ ศิริมังคลา นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอลาดหลุมแก้ว นาย ดรณ์ สมิตเกษตะริน นายอำเภอลำลูกกา นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี และข้าราชการ เจ้าหน้า เข้าร่วมพิธี
พระปทุมธรรมราช เป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดปทุมธานี หล่อด้วยโลหะ ปางขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 3 คืบ พระสุคตประมาณ 40 นิ้ว สูง 50 นิ้ว ห่มจีวร สังฆาฏิพาดตั้งอยู่บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย สูง 8 นิ้ว ยาว 47 นิ้ว วัดความสูงตลอดถึงเกศ 65 นิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระศาสนโสภณ(อ่อน) เมื่อครั้งยังเป็นพรธรรมไตรโลกาจารย์ วัดพิชยญาติการาม ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะมลฑลกรุงเทพฯ เห็นว่าในเขตปกครองของท่านยังไม่มีพระพุทธรูปประจำเมืองจึงดำริกับพระรามัญมุนี(สุทธิ์ ญาณรังสี) เจ้าคณะจังหวัดปทุม เจ้าอาวาสวัดบางหลวงในขณะนั้นพร้อมด้วยพระยาพิทักษ์ทวยหาญ เจ้าเมืองและกรรมการเมืองร่วมจัดหาทุนหล่อพระพทุธรูปขึ้น และเมื่อทำการแต่งองค์พระเสร็จแล้ว พระธรรมไตรโลกาจารย์จึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานนามพระพุทธรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระประจำจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 5 เมษายน ร.ศ.118 (พ.ศ.2443)นามว่า พระปทุมธรรมราช
สำหรับการจัดสร้างพระปทุมธรรมราช พระประจำจังหวัดปทุมธานี องค์จำลองนี้ จัดสร้างขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 118 ปี แห่งการจัดสร้างพระปทุมธรรมราชองค์ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดบางหลวงในปัจจุบัน โดยจังหวัดปทุมธานีจะจัดสร้างพระปทุมธรรมราช จำลองที่มีขนาดต่างๆ กัน ซึ่งในพิธีเททองหล่อพระปทุมธรรมราชจำลองครั้งนี้จะมีขนาดหน้าตัก 33 นิ้ว โดยจัดสร้างขึ้นจำนวนทั้งสิ้น 10 องค์ เมื่อจัดสร้างแล้วเสร็จจะนำไปประดิษฐาน ณ สถานที่สำคัญในจังหวัดปทุมธานี อาทิ ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี, วัดเขียนเขต พระอารามหลวง อำเภอธัญบุรี วัดเจ้าคณะจังหวัดมหานิกาย, วัดโบสถ์ อำเภอสามโคก วัดเจ้าคณะจังหวัดธรรมยุต, วัดชินวรารามวรวิหาร อำเภอเมืองปทุมธานี เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวปทุมธานี และประชาชนทั่วไป ตลอดจนนักท่องเที่ยวได้รู้จักและกราบไหว้บูชาต่อไป..
ภาพ/ข้อมูล: ข่าวสาร ปทุมธานี และเว็ปไซต์ pathumnews.com