ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสิงห์บุรี ผ่านไปยังถนนสายสิงห์บุรี-อ่างทอง (สายเก่า) หมู่ที่ 2 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี พบร้านกาแฟโบราณขายอยู่ริมถนนข้างทาง โดยดัดแปลงใช้รถกระบะและนำร่มมากันแดดกันฝนในส่วนของด้านหน้าร้าน มีป้ายขนาดใหญ่เขียนว่า กาแฟโบราณ ใส่ถุง 20 แก้วเล็ก 25 แก้วใหญ่ 30 บาท และยังมีกล้วยปิ้งโบราณไม้ละ 5 บาท เท่านั้น
คุณน้อง อภิญญา สุวรรณศรี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ที่ 1 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เล่าว่า ตนขายกาแฟโบราณมาหลายปีแล้ว ส่วนสามีมีอาชีพขี่รถซาเล้งรับจ้าง ก่อนหน้านี้ตนขายกาแฟโบราณแถวตลาด โดยเพิ่งย้ายมาขายตรงจุดนี้ที่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ลูกค้าที่ติดใจในรสชาติกาแฟก็จะมาซื้อกันเป็นประจำ อีกทั้งยังมีลูกค้าขาจรที่ผ่านไปมาก็ยังแวะมาซื้ออีกด้วย



ส่วนใหญ่ลูกค้าจะชื่นชอบกาแฟโบราณที่ต้มน้ำด้วยเตาถ่าน และตนยังขายในราคาที่ถูกด้วย โดยทุกๆ วันจะขับรถกระบะมาจอดตรงจุดนี้ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. จากนั้นก็ตั้งร้านโดยใช้เตาถ่านทั้งหมด เพราะนอกจากกาแฟโบราณและเครื่องดื่มชนิดอื่นแล้ว ก็ยังขายกล้วยปิ้งโบราณที่มีน้ำเชื่อมเข้มข้นรสชาติกลมกล่อมอีกด้วย
คุณน้อง เล่าต่อว่า ตนมีลูก 2 คน รายได้จากการขายของนี้ตนสามารถส่งรถกระบะจนหมดและยังส่งลูกสาวคนโตจนเรียนจบปริญญาตรีมีงานการทำเรียบร้อย และยังกำลังส่งลูกชายคนเล็กที่กำลังศึกษาอยู่อีกด้วย โดยได้กำไรในแต่ละวันประมาณ 1,500 บาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายเรียบร้อย โดยขายหมดทุกวัน





ส่วนที่พอมีกำไรในแต่ละวันเหลือนั้น เนื่องจากต้นทุนในการขายน้อย ตนไม่ได้ใช้ไฟฟ้าหรือเตาแก๊สเลย ส่วนถ่านก็ทำเอง กล้วยที่ใช้ปิ้งก็มาจากบ้านที่ปลูกเอาเอง พืชผักสวนครัวที่ปลูกเองที่บ้านก็เก็บเอามาตั้งขายหน้าร้าน โดยยึดหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” ตามพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ร.9)
และตนก็เชื่อว่า สำหรับกาแฟโบราณนั้น ถึงแม้จะมีเครื่องดื่มให้เลือกกันมากมาย แต่กาแฟโบราณก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของหลายคนไม่ว่าจะเป็นคนยุคใหม่หรือคนรุ่นเก่าก็ตาม และจะต้องอยู่กับคนไทยไปอย่างยาวนานแน่นอน
Comments
No related posts.