เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้ลงนามประกาศจังหวัดสิงห์บุรี
เรื่อง เงื่อนไขการเปิดดำเนินการ และมาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ ความว่า..
ด้วย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ปรากฏการระบาดขึ้นใหม่ในหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมทั้งในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคและส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ประกอบกับศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้กำหนดให้จังหวัดสิงห์บุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี ตามมติที่ประชุมวันที่ 4 มกราคม 2564 โดยมีรายละเอียดดังนี้
(1) ตลาด ตลาดนัด ต้องมีมาตรการควบคุมโรคโดยกำหนดให้ลูกค้าทุกคนที่เข้าร้านต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า จัดให้มีจุดวัดอุณหภูมิบริเวณจุดเข้า-ออก จัดให้มีเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือ และจัดระยะห่างระหว่างร้านแต่ละร้าน ห่างกันไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร ทั้งนี้ การดำเนินการจะต้องมีผู้รับผิดชอบ (เจ้าของตลาด) และต้องปฏิบัติตามมาตราการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด
(2) ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม ให้จำกัดเวลาการให้บริการในร้านไม่เกินรายละสองชั่วโมงและต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
(3) พิธีการทางศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี หากมีเหตุจำเป็นที่ต้องจัด ต้องขออนุญาตนายอำเภอท้องที่ ในฐานะเจ้าพนักงานโรคติดต่อ และให้เป็นไปตามประกาศจุฬาราชมนตรี ประกาศมหาเถรสมาคมหรือประกาศทางศาสนาที่เกี่ยวข้อง
(4) สถานประกอบการและโรงแรม ยังสามารถดำเนินการได้ แต่จะต้องปฏิบัติตาม
มาตรการการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
(5) สถานที่อื่น นอกเหนือจาก (1) ถึง (5) ให้เจ้าของสถานที่ เจ้าของกิจการจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคดังต่อไปนี้
1) บริการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หรือการคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ
2) ให้ผู้ให้บริการและผู้รับบริการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า
3) อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด
4) จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
5) จัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถาน ที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการทำกิจกรรมรวมทั้งระหว่างและภายหลังการทำกิจกรรมด้วย
6) ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่และเพิ่มมาตรการใช้แอปพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด
หากเจ้าของกิจการ/กิจกรรม ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและมาตรการที่กำหนด และได้รับการตักเตือนเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2554 ติดต่อกัน 3 ครั้ง อาจถูกพิจารณาสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมอื่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นการชั่วคราว
Comments
No related posts.