เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 คณะอนุกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล ในคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้เดินทางมารับทราบข้อมูลกรณี อบจ.สมุทรปราการ จัดซื้อจัดจ้างเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และโดรนฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเขื้อไวรัสโควิด-19
พลเอก สำเริง ศิวาดำรงค์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมาในวันนี้เนื่องจากปรากฏข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของ อบจ.สมุทรปราการ ในประเด็นการใช้งบประมาณสูงเกินไป จนมีการตั้งข้อสังเกตกันถึงความโปร่งใส จึงจำเป็นต้องมารับฟังเรื่องราวของหน่วยงานที่เกี่ยสข้องทุกฝ่าย เพื่อจะได้ไปสรุปให้คณะกรรมาธิการฯ รับทราบ
และขอชี้แจงเบื้องต้นว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ เราไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบ แต่มีหน้าที่มารับฟังและตรวจสอบตามเอกสารว่าเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดหรือไม่ เช่น ราคาแพงกว่าตลาดหรือเปล่า ซื้อจำนวนมากเพราะอะไร จากที่รับฟังจาก อบจ.สมุทรปราการ พบว่าได้ดำเนินการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสได้เข้มแข็งดี เพราะเป็นจังหวัดต้นทางที่ชาวต่างประเทศจะเดินทางเข้าไทย ทำให้ต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์รองรับสถานการณ์จำนวนมาก ดังนั้นจึงอยากรับฟังเหตุผลของหน่วยงานต่างๆ ว่า มีความคิดเห็นกรณีนี้อย่างไร
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ตามที่ ป.ป.ท.ประสานขอข้อมูลมาทางจังหวัด ซึ่งก็ได้อำนวยความสะดวกโดยให้ทางท้องถิ่นจังหวัดประสานขอข้อมูลไปทาง อบจ. ส่วนจังหวัดนนั้นในฐานะกำกับดูแล เมื่อได้ทราบข้อมูลดังกล่าวเราได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายใน 60 วัน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังไม่เสร็จสิ้น
ขณะที่ตัวแทนจากหน่วยงาน ป.ป.ท. กล่าวว่าหลังจากทราบข่าวทางสื่อมวลชน จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อบจ.ซื้อ 2 สัญญา จึงตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทคู่สัญญา ซึ่งจดทะเบียนที่จังหวัดนนทบุรีประกอบกิจการหลักรับเหมาก่อสร้าง ผลประกอบการมีกำไร 3 ล้านบาท แต่มาทำสัญญาวงเงินสูงถึง 276 ล้านบาท
ในส่วนแอลกอฮอล์บริษัทที่จำหน่าย ตั้งอยู่ที่สมุทรปราการ แต่ อบจ.กลับไปซื้อที่นนทบุรี
ส่วนประเด็นราคา ป.ป.ท.ลงพื้นที่แหล่งผลิตแอลกอฮอล์ที่ลพบุรี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่ ปรากฏว่าจำหน่ายราคาลิตรละ 40 บาท แต่สมุทรปราการ ซื้อราคา 280 บาท ซึ่งโรงงานแจ้งว่าในขณะนั้นมีสต็อก 6 ล้านลิตร
นอกจากนี้ยังมีประเด็นบริษัทคู่เทียบเป็นผู้ดำเนินธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ประตูระบายน้ำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย โดย ป.ป.ท.ได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ไปพิจารณาเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทางด้านผู้แทน ป.ป.ช.จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวต่อที่ประชุมว่า ป.ป.ช.ส่วนกลางมอบหมายให้ดำเนินการตรวจสอบเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากรับรายละเอียดจาก ป.ป.ท.แล้ว เพื่อดำเนินการไต่สวนต่อไป รวมทั้งจะมีการสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม ถ้าพบว่ามีมูล จะเข้าสู่ขั้นตอนการตั้งพนักงานไต่สวนอีกครั้ง โดยขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอยู่
ตัวแทน สตง.จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมอบหมายให้ สตง.ภาค 3 ตรวจหาข้อเท็จจริงโดย สตง.จังหวัดสมุทรปราการเป็นเพียงผู้ประสานงานให้ สตง.ภาค 3 เท่านั้น ทราบว่าอยู่ระหว่างตรวจหาข้อเท็จจริง
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าปล่อยแถว รถพ่นยาฆ่าเชื้อ 6 คัน พร้อมทีมงานกระจายทุกอำเภอ
- “ศรีสุวรรณ”เผยข้อมูลใหม่จาก ป.ป.ช.ยกข้อกล่าวหาอดีตประธาน อบต.คลองด่านและพวกไม่ผิด!! โยง”วัฒนา อัศวเหม”พ้นผิดไปด้วย
- อบต.บางปลา ระดมจิตอาสาร่วมเย็บหน้ากากผ้าป้องกันโควิด–19 แจกชาวบ้าน ตั้งเป้า 27,000 ชิ้น
- ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.แพรกษา สู้ไม่ถอย ยืนยัน เดินหน้าเจรจาเจ้าของที่ดินขอสร้างสะพานลอย 4 แห่ง
- ชาวบางปูสุดทน!!! ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ