เห็นอยู่แทบทุกวัน บางคนผ่านวันละไม่รู้กี่รอบ!!! แต่จะมีสักกี่คน..ที่ทราบถึงเบื้องหน้า-เบื้องหลัง การก่อสร้างอนุสาวรีย์ไกรสรราชสีห์ หนึ่งในไฮไลต์ประจำจังหวัดสิงห์บุรี..
อ.โกศล ขันติทานต์ ปราชญ์ท้องถิ่นและนักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ เล่าถึงที่มาของการก่อสร้าง อนุสาวรีย์ไกรสรราชสีห์ บริเวณสี่แยกไกรสรฯ ก่อนถึงสะพานบางระจันขัามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ตัวเมืองสิงห์บุรีว่า..
“..จากจุดเริ่มต้นที่ผมคิดและต้องการให้มีการสร้างสัญลักษณ์หัวเมืองเดิม ทั้ง 3 ประกอบด้วย เมืองสิงห์ เมืองอินทร์ และเมืองพรหม โดยเริ่มจากเสนอพร้อมข้อมูล-แบบก่อสร้าง ให้ผู้ว่าฯประภาศ บุญยินดี ซึ่งเวลานั้นได้ดำเนินการก่อสร้างได้แค่องค์พระอินทร์ และพระพรหมเท่านั้น แล้วท่านก็ย้ายไป..”
“..ต่อมาได้มีโอกาสเสนอผู้ว่าฯพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ให้ก่อสร้างรูปไกรสรราชสีห์ ซึ่งใช้เวลานานกว่าท่านจะตัดสินใจ และดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ อย่างที่เห็นอยูในปัจจุบัน” อ.โกศลกล่าว
สำหรับนัยยะของการก่อสร้างไกรสรราชสีห์ อ.โกศลบอกว่า มีดังนี้
1.เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ของจังหวัดสิงห์บุรี และเป็นการระลึกถึงหัวเมืองสิงห์ในอดีต
2.เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แทนพระพุทธศาสนา เนื่องจากราชสีห์ เป็นตราประจำศากยะวงศ์ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเราจะเห็นวัดต่างๆ มักมีราชสีห์ประดับอยู่
3.เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระมหากษัตริย์ ผู้ริเริ่มสร้างเมืองสิงห์ คือ พระเจ้าไกรสรราช เมื่อราวปี พ.ศ.1650
4.เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แทนประชาชน ที่มีมาแต่โบราณ ในกฏหมายตราสามดวง ซึ่งประกอบด้วย ราชสีห์ = ประชาชน , คชสีห์ = ทหาร , บัวแก้ว = พระคลัง ซึ่งต่อมากระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดให้ไกรสรราชสีห์ เป็นตราประจำกระทรวง
5.เพื่อเตือนสติให้ประชาชน ระลึกเสมอว่า ไกรสรราชสีห์ คือ สัตว์ 1 ใน 2 ชนิด ที่เคียงข้างค้ำเศวตฉัตร ให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเห็นได้จากตราสัญลักษณ์สำคัญๆ ของพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นคนสิงห์ ในฐานะที่อยู่อาศัยในแผ่นดินที่มีชื่อพ้องตรงกับสัญลักษณ์ จักต้อง ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
6.ด้วยความบังเอิญ ที่จังหวัดสิงห์บุรี มี 6 อำเภอ เหมือนกับจำนวนราชสีห์ทั้ง 6 ตัว และยังมีประวัติศาสตร์วีรกรรมความกล้าหาญของชาวบ้านระจัน ที่ยอมสละชีวิตเพื่อแผ่นดินที่อยู่อาศัย..