ทันทีที่ กกต.เริ่มขยับเตรียมจัดทัพปรับขบวน จัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิก และ นายก อบต.ทั่วประเทศ การขยับเนื้อขยับตัวของเหล่าขุนพลประจำตำบลก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันทีและพื้นที่ อบต.สระแจง อ.บางระจัน สิงห์บุรี ก็เช่นกัน..คาดว่าคงจะคึกคักไม่แพ้สนามใดในสิงห์บุรีแน่นอน
“ผมจะลงชิงเก้าอี้ นายก อบต.สระแจงสมัยนี้แน่นอนครับ” นายโชติวุฒิ เพ็ชรักษ์ ประธานสภา องค์การบริหารส่วนตำบลสระแจง บอกกับผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี ทันทีที่เราเอ่ยถาม หลังปรากฏข่าวลือในพื้นที่มาตลอด
นายโชติวุฒิ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า ประธานแหงว วัย 47 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขารัฐประศาสนศาสตร์ เป็นคนสระแจงโดยกำเนิด เกิดในครอบครัวข้าราชการครู ควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพทำนา กระโดดลงมาชิมลางการเมืองท้องถิ่นในตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมาแล้ว 1 สมัย
เจ้าตัวเปิดใจให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของแนวคิดการลงสมัครนายก อบต สระแจง มาจากการทำงานการเมืองท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่อยู่เสมอจึงเกิดการเปรียบเทียบกับตำบลอื่น..แล้วเห็นว่าตำบลสระแจงยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก
ประธานแหงวมองว่า ปัจจุบันเป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีที่มีผลต่อแนวคิดการพัฒนาแนวใหม่(คนรุ่นใหม่) บวกกับประสบการณ์การทำงานในบริษัทเอกชนมาเกือบ 20 ปี ที่สำคัญเข้ามาเรียนรู้ในตำแหน่งประธานสภามา 1 สมัย ทำให้รู้ระบบและวิธีการในการบริหารงาน บริหารบุคลากร และบริหารงบประมาณ รวมทั้งวิธีการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
“..ถ้าผมได้รับโอกาสได้เป็นนายก อบต สระแจง ผมมั่นใจว่าจะสามารถนำพาและพัฒนาตำบลของเราให้ก้าวหน้าทัดเทียมตำบลอื่นๆ อย่างแน่นอน” โชติวุฒิกล่าวอย่างมั่นใจ
นายโชติวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงโควิคระบาดได้นำแนวคิดบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องชาวสระแจงมาใช้ โดยการสละเงินเดือนประธานสภาและระดมทุนซื้อไข่แจกชาวบ้านทุกครัวเรือน ช่วยแบ่งเบาภาระในครอบครัวได้ระดับหนึ่ง
…
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกว่าพร้อมที่จะสานต่อนโยบายเดิมเพราะดีอยู่แล้วก็คือ คือ ระบบน้ำประปาขนาดใหญ่ให้ครอบคุมทุกพื้นที่ของตำบลสระแจงให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในการบริโภคและทำการเกษตรในครัวเรือน
“เปลี่ยน สระแจง ต้องดีกว่านี้” นี่คือสโลแกนประจำตัวของหนุ่มโชติวุฒิ ที่อาสาลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบต.สระแจง ในนามอิสระ เพื่อพัฒนาถิ่นเกิดให้รุดหน้าต่อไป..
