นายประสงค์ อุไรวรณ์ นายอำเมืองอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ตรวจสภาพบ้านไม้หลังเก่าอายุเกือบ 50 ปี ชุมชนริมแม่น้ำน่านเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ เลขที่ 212 ถนนเกษมราษฎร์ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง อุตรดิตถ์ มีนางพิศสมัย จันทรัตน์ อายุ 73 ปี เป็นผู้อาศัยอยู่ตามลำพัง ชึ่งได้รับความเดือดร้อนตัวบ้านเกิดการทรุดตัวและพังลงมากองอยู่กับพื้นดิน และบ้านบางส่วนก็ถูกกระแสน้ำพัดโคลนเข้าท่วมพื้นบ้านจนเสียหาย เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านมีปริมาณมาก
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านและบันไดทางขึ้น ได้เอนไปทั้งหลังไปตามเสาที่ค้ำเอาไว้หากปล่อยไว้อาจพังถล่มลงมาทั้งหลังได้ โดยนางพิศสมัย ไม่มีอาชีพอย่างอื่นอาศัยแค่เพียงเงินจากเบี้ยผู้สูงอายุเลี้ยงตัวเองเท่านั้น โดย นางพิศสมัย นำปากกาเมจิ สีน้ำเงิน เขียนข้อความลงในแผ่นกระดาษว่า ” ดินทรุดบ้านพัง ไม่มีใครเหลียวแล” “นอนหลับผวาแทบทุกคืน โดยนำป้ายข้อความทั้งหมดไปติดที่บริเวณด้านข้างของตัวบ้านและที่บริเวณด้านหน้าของตัวบ้านที่พังลงมา เพื่อต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลให้การช่วยเหลือ
สำหรับชุมชนเกษมราษฎร์ เป็นแหล่งชุมชนที่ประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นของเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ อีกแห่งหนึ่ง และบ้านของพิสมัย พร้อมที่จะพังถล่มลงมา ตัวบ้านที่เอนเอียงไปตามเสาไม้และพบร่องรอยปลวกกัดกินตั้งแต่เสาบ้านจนถึงข้างฝาบ้านลามทั่วทั้งหลัง บริเวณหน้าต่างบ้านด้วยจำนวนหลายบาน และไม่สามารถปิดเข้าหากันได้ เกิดจากความเอียงตัวของบ้าน สภาพตัวบ้านโดยทั่วไปผุกร่อนตามกาลเวลา
และพบร่องรอยดินยุบตัวเป็นหลุมที่บริเวณหน้าบ้าน ด้านข้างและด้านหลังของตัวบ้าน เกิดจากการเคลื่อนตัวของดิน สร้างความหวาดเสียวต่อผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าหากไม่รีบดำเนินการซ่อมแซม บ้านหลังนี้อาจพังครืนลงมาทั้งหลังในเร็ววันนี้ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย (ภาพ-ข้อมูล : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์)
BY : สำนักข่าว THAI TIME ติดตามข้อมูลและข่าวสารย้อนหลังได้ที่ [ www.thaitimeonline.com ]