นายเอก กันตนา ผู้บริหารฝ่ายรายได้ กันตนา มูฟวี่ คาเฟ่ เปิดเผยกับกองบรรณาธิการ เพจ Singburi Review ถึงแผนการบุกตลาดของทุกสาขาทั่วประเทศว่า จุดขายของกันตนาฯไม่ได้อยู่ที่การฉายภาพยนตร์ แต่เน้นไปที่ความเป็นศูนย์การเรียนรู้สู่ชุมชน ซึ่งลูกค้าสามารถมาใช้บริหารเหมารอบเพื่อประชุม สัมมนา หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้ โดยภาพยนต์เปรียบเสมือนของแถมที่มอบพิเศษให้กับลูกค้ามากกว่าจะคิดเป็นรายได้
นายเอกกล่าวต่อไปว่า แผนการตลาดที่ประสบความสำเร็จสูงมากในปีที่ผ่านมาก็คือ การเปิดให้โรงเรียนสามารถนำนักเรียนมาเรียนพิเศษเป็นหมู่คณะฟรี โดยทางกันตนาได้จัดเตรียมบทเรียน ตามคอร์สต่างๆ พร้อมติวเตอร์ระดับมืออาชีพ มีชื่อเสียงชั้นนำของประเทศ บางท่านได้รับเหรียญทองโอลิมปิคมาแล้ว ซึ่งคอร์สที่ได้รับความนิยมสูงมากได้แก่ การเตรียมความพร้อมในการสอบ ONET ส่งผลให้มีกลุ่มสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะระดับประถมปีที่ 6 ที่จะเตรียมสอบขึ้นระดับมัธยมต้น และกลุ่มที่ใกล้จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 มาเตรียมความพร้อมเพื่อเรียนต่อในระดับมัธยมปลายเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก
ส่วนที่สาขาสิงห์บุรี ที่ผ่านมาเน้นการจำหน่ายอาหารเป็นหลัก ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มเข้ามาทำตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยจะเริ่มจากโรงเรียนสิงห์บุรีก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจึงจะขยายไปสู่สถาบันการศึกษาอื่นๆ เพื่อให้เด็กและเยาวชนในสิงห์บุรีมีโอกาสได้ติวพิเศษกับอาจารย์ระดับประเทศ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปติวกันถึงกรุงเทพฯ
“ส่วนใหญ่คิดว่ากันตนา มูฟวี่ คาเฟ่ มีจุดขายเป็นโรงหนัง แต่จริงๆ ไม่ใช่ เราเป็นศูนย์เรียนรู้ โดยมีอาหารและเครื่องดื่มบริการ ดังนั้นที่วิตกกันว่า ค่ายโรงภาพยนตร์ใหญ่มาเปิดในสิงห์บุรีจะกระทบกับยอดขายนั้น ขอเรียนว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลย เป็นคนละตลาดกัน” ผู้บริหารฝ่ายรายได้ กันตนา มูฟวี่ คาเฟ่ กล่าว
ในขณะที่ น.ส.วนิดา ทองแก้ว พนักงาน กันตนา มูฟวี่ คาร์เฟ่ สาขาสิงห์บุรี กล่าวสอดคล้องกันว่า รายได้หลักของสาขาสิงห์บุรี อยู่ที่การจำหน่ายอาหารที่หารับประทานไม่ได้ในสิงห์บุรี นั่นก็คืออาหารญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนการเข้าชมภาพยนต์ถือเป็นรายได้เสริม เนื่องจากบัตรเข้าชมราคาเพียงท่านละ 30 บาทเท่านั้น ภาพยนตร์จึงเปรียบเสมือนของแถมสำหรับลูกค้ามากกว่าจะถือเป็นรายได้
“ลูกค้าส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว มารับประทานอาหาร มาชมภาพยนตร์ หรือมาประชุมพบปะกันเป็นกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำ บรรยากาศของเราเป็นเหมือนชุมชนคนกันเอง โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์-อาทิตย์จะคึกคักมาก” น.ส.วนิดากล่าว
ภาพ/ข่าว:กองบรรณาธิการ เพจ Singburi Review ในเครือ สำนักข่าว THAI TIME