นายภูวเดช มังสาทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระงาม อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมโครงการจัดทำแปลงสาธิตปลูกพืชหมุนเวียนตามทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 บนเนื้อที่ 12 ไร่ ซึ่งเดิมเคยทำโครงการทุ่งทานตะวันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของตำบลพระงาม จนประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยโครงการแปลงสาธิตปลูกพืชหมุนเวียน จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 โซน ประกอบไปด้วย
โซนทุ่งคอสมอส(cosmos) ถือเป็นจุดขายของโครงการ จะเน้นความสวยงาม เพื่อให้เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ สามารถมาถ่ายภาพได้ โดยจะเปิดโอกาสให้ชาว ต.พระงามมาเปิดร้านจำหน่ายสินค้าการเกษตร อาหาร เครื่องดื่ม และงานหัตถกรรม ของที่ระลึก เสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัวด้วย
โซนข้าวไร่ สายพันธุ์ภาคใต้ที่ปลูกได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำเหมือนสายพันธุ์ภาคกลาง หากนำมาส่งเสริมให้เกษตรกรเพราะปลูกในช่วงฤดูแล้ง หรือในพื้นที่ดอนขาดแคลนน้ำ จะให้ผลผลิตที่ดีกว่าปลูกด้วยสายพันธุ์ดั้งเดิมของสิงห์บุรี
โซนสวนกล้วย จะเน้นสายพันธุ์น้ำว้ากาบขาว เนื่องจากเป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังเป็นที่ต้องการของท้องตลาด ปลูกง่าย ให้ผลผลิตดี ไม่ต้องดูแลมาก
โซนข้าวโพดหวาน ถือเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม ไม่เฉพาะย่านภาคกลาง แต่เป็นที่ต้องการของตลาดในแทบทุกภูมิภาค ที่สำคัญในจังหวัดสิงห์บุรียังมีการปลูกในปริมาณไม่มากนัก หากชาว ต.พระงามปลูกจำหน่าย น่าสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้เป็นอย่างดี
“ทาง อบต.พระงามจะเน้นใช้พื้นที่จำนวน 12 ไร่ให้คุ้มค่า ด้วยการปลูกพืชหมุนเวียน ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เราจะมีข้อมูล พร้อมคำแนะนำในการปลูกพืชทุกชนิด ซึ่งเราเลือกมาให้มีอายุ 3-4 เดือนต่อรอบ ซึ่งง่ายต่อการวางแผนการตลาด หมุนเวียนไปตลอดทั้งปี ได้ประโยชน์ทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้-แหล่งท่องเที่ยว-แหล่งรายได้ ไปพร้อมๆ กัน” นายก อบต.พระงามกล่าว
Cr. ข้อมูล : Singburi Review / ภาพ : แนวหน้า
