![]()
เมื่อไม่นานมานี้ โรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์จัดพิธีเปิดลานกีฬาออกกำลังกายเพื่อประชาชนแห่งแรกในสมุทรปราการ โดยมีพลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และคณะผู้บริหารสถานศึกษา ตลอดจนข้าราชการ ครู นักเรียน และประชาชน เข้าร่วมงานกว่า 800 คน

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมการเปิดลานกีฬาในโรงเรียนเล็กๆ แห่งนี้ ถึงมีบุคคลสำคัญระดับรัฐมนตรีมาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด ก็เพราะทางโรงเรียนมีการเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับชุมชนในละแวกให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเข้มแข็ง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามาในไม่ช้านี้

คำถามมีต่อไปว่า จะร่วมมือกันอย่างไรจึงจะสามารถรองรับสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุได้..คนที่จะให้คำตอบที่สุดคงจะหนีไม่พ้น นายอิทธิพัทธ์ ธีระวรรณสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ที่บอกว่า ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแล้ว และคาดว่าในปี 2573 ไทยจะมีผู้สูงอายุถึง 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด ทางโรงเรียนจึงเล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพคนในชุมชนบริเวณรอบโรงเรียน และได้ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชน ให้มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ รวมถึงสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนและชุมชุนโดยรอบ ซึ่งจะช่วยก่อให้เกิดความรักสามัคคีร่วมกัน

โดยโจทย์ที่จะต้องขบคิดอย่างหนักก็คือ การกำหนดรูปแบบของกิจกรรมและความร่วมมือ จะต้องสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของชุมชนรอบโรงเรียน ขณะเดียวกันจะต้องไม่กระทบต่อกระบวนการเรียนการสอนด้วย โครงการจึงจะประสบความสำเร็จ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า จะจัดทำพื้นที่ออกกำลังกายสำหรับคนในชุมชน อยู่สองส่วนคือลานกีฬาในโรงเรียน และลานกีฬากลางชุมชน โดยแบ่งเป็น โซนเครื่องออกกำลังกาย โซนลานแอโรบิค โซนสนามฟุตบอล

หรือถ้าประชาชนรายไหนอยากทำกิจกรรมอะไรเพิ่มเติม ก็ให้แจ้งความประสงค์เข้ามา ทางโรงเรียนจะนัดมาวางแผน ว่าจะทำกิจกรรมอะไร เช่น รำไทย โยคะ แอโรบิค เปตอง เป็นต้น เพื่อทางโรงเรียนจะจัดสรรวิทยากรมาให้ความรู้เรื่องกีฬาประเภทต่างๆ ตามที่ชุมชนต้องการ

ผลจากการเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้ามาออกกำลังกาย ทำให้ชุมชนโดยรอบหันมาใส่ใจเรื่องการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะสะดวกต่อการเดินทางและไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังทำให้คนในชุมชนออกมารวมตัวกันทำกิจกรรม พบปะพูดคุยกันดีกว่าเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ทำให้ทั้งสุขภาพกายและใจ ดีขึ้นตามลำดับอีกด้วย




