ข่าวทั่วไป, ข่าวปัจจุบัน

เปิดวลีเด็ดเด็กน้อยวัยแค่ 11 ปี..“เพราะไม่ใช่ของผม ผมจึงไม่อยากได้ครับ” หลังเก็บกระเป๋าสตางค์ได้ ส่งตำรวจ สืบหาจนพบเจ้าของ

1544 Views

Loading

         เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ด.ต.วิทยา โพธานันท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจชุมชนจักรสีห์ ที่อยู่ในบริเวณวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี ว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2561 เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีเป็นเด็กชายชื่อ เด็กชายกิตติกร บุณยานุตร์ อายุ 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/59 หมู่ 1 ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นนักเรียนของโรงเรียนบรรจงรัตน์ เลขที่ 77 ซอยเอกทศ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ได้นำกระเป๋าสตางค์มามอบให้และได้แจ้งว่าพบกระเป๋าสตางค์ร่วงอยู่ในบริเวณหลังร้านขายของโอท็อปของพ่อแม่
        หลังจากเปิดดูพบว่ามีเงินอยู่ในกระเป๋าเป็นจำนวนมาก จึงรีบนำกระเป๋าสตางค์มาแจ้งตำรวจให้หาตัวเจ้าของ ซึ่งตนได้เปิดดูในกระเป๋าสตางค์ไม่พบเอกสารใดๆ ที่แสดงว่าใครเป็นเจ้าของ โดยมีเงินอยู่จำนวน 42,556 บาท และมีเพียงสลิปร้านค้าที่อยู่ในนั้น เมื่อโทรไปสอบถามก็ไม่ได้ความกระจ่างใดๆ จึงย้อนกลับมาดูที่กล้องวงจรปิดภายในร้านก็พบผู้หญิงคนหนึ่งที่มาเดินซื้อของในร้าน เมื่อสืบหาว่ามีใครรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหม พบว่ามีคนรู้จักเลยติดต่อสอบถามไปจึงพบว่าเป็นเจ้าของกระเป๋าสตางค์

        ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านบรรจงผ้าลายไทยที่เป็นเป็นร้านโอท็อปภายในบริเวณวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร พบ เด็กชายกิตติกร บุณยานุตร์ หรือ น้องกันต์ เล่าว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม ตนมาช่วยพ่อกับแม่ขายของในร้านเพราะว่าพ่อกับแม่ไม่อยู่ วันนั้นมีลูกค้าเข้ามาดูของในร้านซึ่งตนก็จำหน้าไม่ได้ พอช่วงบ่ายๆ ป้าเล็กที่เป็นลูกจ้างในร้านได้เดินมาจากหลังร้านบอกว่าเจอกระเป๋าสตางค์ใครก็ไม่รู้ทำตกไว้ เมื่อตนเอามาเปิดดูเพื่อหาเอกสารว่าใครเป็นเจ้าของก็ไม่พบ พบเพียงเงินที่มีในกระเป๋าอยู่เป็นจำนวนมาก ด้วยความตกใจและเป็นห่วงว่าเจ้าของคงกำลังทุกข์ใจ และคำที่พ่อแม่สอนมาตลอดเลยว่าของอะไรที่ไม่ใช่ของๆ เรา อย่าไปเอาของคนอื่น ตนจึงรีบนำกระเป๋าสตางค์ไปให้ตำรวจเพื่อสืบหาเจ้าของทันที เมื่อรู้ว่าเจอเจ้าของแล้วก็รู้สึกดีใจ

         ด้าน นางสาวสมปอง สักการะ นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ รักษาการ ผอ.กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพป.สิงห์บุรี เจ้าของกระเป๋าสตางค์ได้เล่าว่า วันที่ทำกระเป๋าสตางค์หายนั้นตนเตรียมเงินจะมาซื้อของ โดยปกติตนจะไม่เอาเอกสารใดๆ ใส่ในกระเป๋าสตางค์ จะมีกระเป๋าเอกสารแยกต่างหาก เมื่อรู้สึกตัวว่ากระเป๋าสตางค์หาย ก็ใจหาย แต่ก็นึกไม่ออกว่าหายที่ไหน และไม่คิดว่าจะได้คืนแล้ว ยังทำงานต่อเป็นปกติ จนมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้โทรไปสอบถามว่าได้ทำกระเป๋าสตางค์หายหรือไม่ ตนจึงดีใจรีบเดินทางมารับคืนทันที และได้มอบเงินให้ น้องกันต์ ผู้เก็บกระเป๋าสตางค์ได้เป็นทุนการศึกษาและเป็นสินน้ำใจในความเป็นเด็กดีจำนวน 5,000 บาท และขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ทำให้ตนได้รับเงินคืนจากที่หมดหวังแล้วว่าจะได้เงินคืน..
(ภาพ/ข่าว : ณัฏฐนารา ปานมี จ.สิงห์บุรี)

Comments

comments