ตามที่มีกระแสข่าวลือมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 เกี่ยวกับกรณีการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงานโรงงานโปรเพท ต.หัวป่า อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ว่ามีจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดสิงห์บุรี ได้ออกเอกสารแถลงข่าว ชี้แจงข้อเท็จจริง
โดยระบุว่า จากข้อมูลของทีมสอบสวนโรคเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 มีผู้ติดเชื้อในโรงานโปรเพท เพิ่มจำนวน 3 ราย โดย 2 รายแรก เป็นพนักงานในโรงงานโปรเพท ซึ่งพักอยู่หอพักเดียวกัน และขอกลับไปรักษาตัวต่อที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย อาศัยอยู่ ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี ซึ่งรายนี้มีการแพร่เชื้อไปยังบุคคลในครอบครัว จำนวนทั้งสิ้น 7 ราย ส่วนอีก 7 รายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เป็นบุคคลในครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ได้ทำการตรวจหาเชื้อ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 4 และ 5 สิงหาคม 2564 แล้ว #ไม่พบการติดเชื้อโรคโควิดเพิ่มแต่อย่างใด
หลังจากการแถลงการณ์ออกมา แทนที่จะสามารถสยบกระแสข่าวลือให้เบาบางหรือหมดไปได้ สถานการณ์กลับยิ่งเพิ่มความสับสนให้กับพนักงานตลอดจนเครือญาติ รวมไปถึงประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวสาร โดยมีการส่งข้อความสอบถามและให้ข้อมูลมายังสื่อมวลชนหลายสำนัก
นอกจากนี้บางส่วนยังเข้าไปแสดงความคิดเห็นตามโพสต์ต่างๆ ซึ่งพอสรุปสาระและใจความได้ดังต่อไปนี้
ไม่เชื่อว่า ยอดการติดเชื้อโควิดของพนักงานในโรงงานโปรเพท มีตามจำนวนที่ คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดสิงห์บุรีสรุปและออกแถลงการณ์มา
เกิดความไม่สบายใจต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดภายในโรงงาน เช่น ยังไม่พบว่ามีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อฯ รวมไปถึงมาตรการอื่นๆ เช่น การแยกพื้นที่แผนกที่พบการติดเชื้อ เป็นต้น
กังวลกับผลกระทบที่อาจจะเกิดจากการแพร่เชื้อจากโรงงานสู่คนในครอบครัว เนื่องจากพนักงานยังคงเดินทางไป-กลับ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่มีการเรียกร้องมากที่สุดก็คือ #ขอให้ทางสาธารณสุขส่งทีมเข้าไปตรวจหาเชื้อโดยละเอียดทั้งโรงงาน เพื่อความสบายใจของทั้งผู้ประกอบการและพนักงาน ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยยุติข่าวลือได้
Comments
No related posts.