ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอโศกมหาราช ขนาดความสูง 5.79 เมตร จำนวน 1 องค์ เพื่อประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลจังหวัดสิงห์บุรี ถือว่าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
และขนาดความสูง 2.41 เมตร จำนวน 2 องค์ เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร และ ณ วัดไทยธรรมศาลา เมืองดาลัมซาล่า รัฐหิมาจัลประเทศ ประเทศอินเดีย และ ขนาดความสูง 1.74 เมตร จำนวน 1 องค์ เพื่อประดิษฐาน ณ มูลนิธิทนายกองทัพธรรม
นอกจากนี้ยังจัดสร้าง รูปหล่อพระเจ้าอโศกมหาราช จำนวน 299 องค์ และ เหรียญที่ระลึกพระเจ้าอโศกมหาราช จำนวน 84,000 องค์ เท่ากับที่พระเจ้าอโศกมหาราช สร้างพระสถูปเจดีย์ 84,000 องค์(แห่ง)ทั่วชมพูทวีป ซึ่งจะมีพิธีพุทธาภิเษก และเทวาภิเษก ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร จ.สิงห์บุรี
สำหรับเหตุผลในการจัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าอโศกมหาราช ทนายอนันต์ชัยกล่าวว่า เพื่อประกาศเกียรติคุณที่พระองค์ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกที่สําคัญที่สุดของพระพุทธศาสนา และหารายได้เป็นกองทุนโครงการถวายความรู้แก่พระสังฆาธิการ-พระภิกษุ-สามเณร-ไวยาวัจกร-กรรมการวัด และประชาชนทั่วประเทศ
รวมถึงเพื่อเป็นทุนในการให้การช่วยเหลือวัดวาอารามต่างๆ และพระภิกษุ-สามเณร ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่เป็นเรื่องส่วนรวมของคณะสงฆ์ ซึ่งการเข้าช่วยเหลือพระภิกษุ สามเณร และวัดวาอารามต่างๆ และการจัดโครงการถวายความรู้ ดังกล่าว มูลนิธิทนายกองทัพธรรม ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเองทั้งสิ้น โดยไม่ได้ขอรับบริจาคจากพระภิกษุ สามเณร หรือวัดใดๆ เลย ซึ่งจะทยอยจัดในแต่ละจังหวัดให้ครบทั้ง 18 ภาคของคณะสงฆ์ทั่วประเทศ
ทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรม จึงจำเป็นต้องหาทุน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานช่วยเหลือพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงสืบไป
…………………………………..
