มีรายงานข่าวจากแขวงทางหลวงสิงห์บุรี แจ้งว่า ขณะนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณในโครงการก่อสร้างสะพานบางระจันข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แทนของเดิมที่ชำรุด พร้อมงบประมาณในการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนสาย 311 ตั้งแต่แยกไกรสรราชสีห์ ไปจนถึงแยกศาลหลักเมืองสิงห์บุรี รวมระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะได้แก่ งบประมาณปี 2568 จำนวน 400 ล้านบาท , ปี 2569 จำนวน 400 ล้านบาท และปี 2570 อีก 200 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดการก่อสร้าง จะแยกออกเป็นส่วนของตัวสะพาน โดยจำเป็นต้องทุบสะพานเดิม(เฉพาะฝั่งขาเข้าเมือง)ที่ชำรุดออก เนื่องจากก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2500 หรือเมื่อ 67 ปีที่ผ่านมา เพื่อก่อสร้างสะพานใหม่ทดแทน ความยาว 285 เมตร เป็นสะพานเหล็กคานโค้งคันธนูแห่งแรกของประเทศไทย มีระบบเคเบิลแบบเครือข่าย (Network Tied Arc Bridge) แสดงสัญลักษณ์ความร่วมแรงร่วมใจของชาวบางระจัน ขนาด 3 ช่องจราจร สามารถปรับเป็น 4 ช่องจราจรได้ในอนาคต
ส่วนรูปแบบสะพานใหม่ ได้ออกแบบเป็นคานโค้งคันธนู ซึ่งจะช่วยให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้น ลดจำนวนตอม่อในแม่น้ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุพิเศษลดการกัดกร่อนสูง และลดงบประมาณบำรุงรักษาระยะยาว รวมทั้งมีการปรับภูมิทัศน์ให้งดงาม สามารถเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังจะปรับปรุงถนนที่เชื่อมระหว่างสะพานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเริ่มจากปรับปรุงบริเวณแยกไกรสรราชสีห์ ขยายพื้นผิวจราจรให้เป็นวงเวียน พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม ต่อเนื่องไปจนถึงตัวสะพาน ส่วนฝั่งตะวันตกจะปรับปรุงไปจนถึงแยกศาลหลักเมืองสิงห์บุรี ซึ่งบริเวณนี้จะทำเป็นวงเวียนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสัญจร ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อย่านเศรษฐกิจของสิงห์บุรีและจังหวัดใกล้เคียง เช่น อ่างทอง ชัยนาท และสุพรรณบุรี
นายณรงค์ศักดิ์ วิงวอน นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีที่สิงห์บุรีจะมีโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการเดินทางของพี่น้องประชาชน ทั้งชาวสิงห์บุรีเองและจากพื้นที่ใกล้เคียง ที่สำคัญยังส่งเสริมการท่องเที่ยว
หากพิจารณาจากรูปแบบการก่อสร้างแล้วจะพบว่า สามารถพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2568 โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมฝั่งบางแคจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะมาเชื่อมต่อกับสะพานบางระจันแห่งใหม่พอดี จะทำให้ระบบป้องกันน้ำท่วมมีความสมบูรณ์และยังจะเป็นจุดที่มีความสวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจมาก
นายณรงค์ศักดิ์กล่าวต่อไปว่า โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ เป็นความพยายามจากหลายฝ่ายร่วมผลักดัน โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 สมัยที่มีนายวิลาส เมืองทอง เป็นแขวงทางหลวงสิงห์บุรี แต่ขณะนั้นติดปัญหาเรื่องการทำประชาคม
จนกระทั่งปี 2563 ทางเทศบาลฯได้ร่วมกับแขวงทางหลวงสิงห์บุรีจัดทำประชาคมใหม่อีกครั้ง พร้อมกับเสนอแผนปรับปรุงภูมิทัศน์ทั้งระบบ ตั้งแต่บริเวณแยกไกรสรฯ ต่อเนื่องมาจนถึงหน้าวัดสังฆราชาวาส ไปจนถึงวัดโพธิ์เงิน เรื่อยไปจนถึงแยกศาลหลักเมืองฯ และไปสิ้นสุดที่บริเวณปั๊ม ปตท. ปรากฏว่าประชาชนมีมติเห็นด้วยให้ดำเนินการได้
จากนั้น ทางเทศบาลฯและแขวงทางหลวงฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ส. ส.โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ และอดีตรัฐม นตรีชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เพื่อร่วมผลักดันงบประมาณ จนปัจจุบันได้รับการอนุมัติงบประมาณในปี 2568-2570 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี
……………………………
By : โสภิดา เผือกพันธ์ ผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
