วันที่ 4 ธันวาคม 2563 เวลา 13.30 น. นายชำนายวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วยนายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุม เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันกรณี ตรวจพบว่า มีชาวสิงห์บุรีติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 1 ราย
และหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ในจังหวัดสิงห์บุรีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 1 ราย เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 51 ปี พร้อมเปิดไทม์ไลน์การเดินทาง รวมถึงความเสี่ยงของการสัมผัส ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ถึง 3 ธันวาคม 2563 จนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี
🔸️วันที่ 23 พฤศจิกายน เดินทางไปสนามบินดอนเมืองและเดินทางต่อไปที่สนามบินน่าน
🔸️วันที่ 24 พฤศจิกายน นั่งรถปิ๊กอัพรวมทั้งหมด 5 คน ไปเวียงป่าเป้า
🔸️วันที่ 25 พฤสจิกายน เดินทางถึงเชียงราย เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
🔸️วันที่ 26 พฤศจิกายน ส่งคนดูงานที่สนามบินและไปเที่ยวต่อที่งานสิงห์ปาร์คเชียงราย จำนวน 3 คน โดยระบุว่า แค่แวะเข้าห้องน้ำและถ่ายรูปกับสิงห์เท่านั้น
🔸️วันที่ 27 พฤศจิกายน อยู่โรงงานกับผู้จัดการ และไปทานข้าว(จำชื่อร้านไม่ได้)
🔸️วันที่ 28 พฤศจิกายน มีรถตู้มาส่งที่สนามบินเชียงราย เพื่อเดินทางกลับมายังสนามบินดอนเมือง จากนั้นมีรถตู้มารับกลับ โดยแวะทานอาหารที่อยุธยาและกลับมาที่อ่างทอง
🔸️วันที่ 29 พฤศจิกายน สามีแวะซื้อกาแฟปั๊มแห่งหนึ่ง ต่อด้วยไปตลาดท่าข้าม สิงห์บุรี ระหว่างนั้นใส่แมสก์ตลอดเวลา จนไปถึงที่ร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่ง จึงได้ถอดแมสก์
🔸️วันที่ 30 พฤศจิกายน ไปโรงงาน และโรงพยาบาลอินทร์บุรี เพื่อฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
🔸️วันที่ 1 พฤศจิกายน ไปทำงานมีอาการปวดเมื่อย มีน้ำมูกร้อนๆ หนาวๆ แต่ไม่ไอ
🔸️วันที่ 2 ธันวาคม อยู่บ้านตลอดทั้งวัน
🔸️วันที่ 3 ธันวาคม เข้ารับตรวจที่โรงพยาบาลบางระจัน เนื่องจากเดินทางเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 จากนั้นจึงมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีดังกล่าว
โดยมีผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง ประมาณ 27 ราย (ไม่รวมเที่ยวบิน) โดยผู้สัมผัสที่อยู่ในจังหวัดสิงห์บุรีได้เข้ารับการกักตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ ขณะนี้ยังไม่ระบุจำนวนที่ชัดเจน แต่ทางสาธารณสุขจังหวัดมีรายชื่อผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำในสิงห์บุรี และให้ทำโฮมควอรันทีนกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน สแกนอุณหภูมิทุกวันโดยผู้นำชุมชน
นายชำนาญวิทย์กล่าวว่า ได้ย้ำให้ทุกภาคส่วนต้องคุมเข้ม ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้ง เพื่อการติดตามตัว โดยจะต้องเข้มงวดเหมือนการระบาดใหญ่รอบแรก
ด้านนายแพทย์สาธารณสุข ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่าสถานการยังสามารถควบคุมได้ โดยตามคำสั่งผู้ว่าฯให้ตั้งศูนย์วอลรูม รายงานเหตุการประจำวันอย่างน้อย 30 วันขึ้นไป ตรวจสอบอย่างเข้มข้น ค้นหาผู้มีอุณหภูมิสูง เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขได้นำไปวิเคราะห์และสอบสวนร่วมกัน เพื่อจะได้สรุปข้อมูลให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
by : โสภิดา เผือกพันธ์ ผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- สภาอุตสาหกรรมฯร่วมกับภาครัฐ-เอกชน เปิดตู้ปันสุข หน้าเทวาลัยพระพรหม สิงห์บุรี
- มาทีหลังแต่จ่ายหนักกว่า!! เทศบาลเมืองสิงห์บุรี ลงมติเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ครอบครัวละ 2,300 บาท
- 18 มีนาคม พาณิชย์สิงห์บุรี เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาถูก 4 จุด
- ‘เนวิน’ จัดเต็ม..คน3หมื่นต้อนรับ ประยุทธ์..ชูบุรีรัมย์เมืองกีฬา
- 3 ท้องถิ่นลำพูน จับมือร่วมส่งเสริมประเพณีแห่น้ำทิพย์ดอยขะม้อ