หมอทวีศิลป์ ยืนยันสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศ ผลสำรวจพบคนไทยเริ่มการ์ดตก หวั่นติดเชื้อรอบ 2
วันนี้ (วันที่ 2 มิถุนายน 2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงถึงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวัน ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และเข้า State Quarantine เป็นที่เรียบร้อย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย โดยไม่มีการติดเชื้อในประเทศติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 8 วัน แล้ว
ส่วนกรณีที่ยังมีข้อสงสัยจากประชาชนในเรื่องของการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกในประเทศว่าได้มีการตรวจจริงหรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการการเฝ้าระวังโรค และค้นหาการติดเชื้อในประชากรกลุ่มเสี่ยง และสถานที่เสี่ยง โดยตั้งเป้าไว้ทั้งหมด 100,000 ราย ทำมาตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม มีรายงานการตรวจทั้งหมด 12 เขตตรวจราชการ ตรวจไปแล้วกว่า 32,568 รายทั่วประเทศ คิดเป็น 32.56 % โดยกลุ่มเป้าหมายคือ บุคลากรทางการแพทย์, ผู้ต้องขังแรกรับ, ผู้ที่พบปะคนจำนวนมาก และกลุ่มอื่นๆ ตามประกาศของโรคติดต่อที่จังหวัดพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายงานพบการติดเชื้อในกลุ่มนี้
สำหรับข้อกังวลกรณีคนไทยการ์ดตก นพ.ทวีศิลป์ได้ยกผลสำรวจจาก นิด้าโพล ตั้งแต่มีการผ่อนปรนในระยะที่ 2 วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 พบว่า 3 ใน 4 ของผู้ทำแบบสอบถาม คิดเป็น 68.08% ระบุว่า ยังไม่เคยเข้าไปในสถานที่หรือทำกิจกรรมตามที่ได้รับการผ่อนปรนเลย ขณะที่ 24.80% ระบุว่า เข้าศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ อีก 11.61% ระบุว่า ใช้บริการร้านตัดผม 8.03% ระบุว่า เข้าร้านค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ และ 6.20% ระบุว่า เข้าไปนั่งทานอาหารในร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม โรงอาหาร ศูนย์อาหาร ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ที่ผ่อนปรนมีเพียง ไม่ถึง 1% ที่เข้าใช้บริการ
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกับคำว่า การ์ดตก ของคนในสังคม ตั้งแต่รัฐบาลประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะ 2 พบว่า 6.12% คนในสังคมมองว่าการ์ดตกมาก, 32.99% ระบุว่าคนในสังคมการ์ดค่อนข้างตก 27.66% ระบุว่า คนในสังคมการ์ดไม่ค่อยตก 29.18% ระบุว่าคนในสังคมการ์ดไม่ตกเลย
ทั้งนี้ นพ.ทวีศิลป์ ได้สรุปว่าจากผลสำรวจที่ออกมานั้น การที่จะทำให้คนไทยสู้กับโรคนี้ได้นั้น ต้องมีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องอย่างน้อย 90%
นอกจากนี้ยังยกตัวอย่างเกี่ยวกับผลสำรวจที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับองค์การอนามัยโลก, สปสช., มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจกาป้องกัน 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ อสม., สำรวจออนไลน์ และโทรศัพท์สอบถาม พบภาพรวมทุกกลุ่มเป้าหมาย ต่ำกว่า 90% และเมื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมในการป้องกันตัวเองในเดือนเมษายนนั้นพบว่า มีการปฏิบัติน้อยลงทุกกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน
