ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทางอำเภอเมืองสิงห์บุรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสิงห์บุรี ที่ออกคำสั่งห้ามวัดทุกแห่งในเขตอำเภอเมือง จัดการสอยดาวหรือตักไข่การกุศล เพื่อหารายได้เข้าวัด เนื่องจากเป็นการพนันที่อยู่ในบัญชีการพนันตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ.2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2475 ข้อ ค.(5) และระเบียบมหาเถรสมาคม ว่าด้วยการจัดงานวัด พ.ศ.2537 ข้อ 7 โดยมีการออกความเห็นปรากฏตามสื่อโซเชียลมีเดีย สถานีโทรทัศน์ และสื่อกระแสหลักต่างๆ ในทำนองว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวขัดต่อขนบธรรมเนียมและประเพณีของการจัดงานวัดที่ชาวสิงห์บุรีปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยผ่านรายการผู้ว่าพบประชาชน ทางสถานีวิทยุ อสมท.สิงห์บุรี ว่า ไม่ได้ห้ามไม่ให้จัดงานวัด แต่เป็นระเบียบว่าด้วยการจัดงานวัดที่กำหนดเอาไว้ว่า ไม่ให้มีการพนัน การแสดงหรือเต้นรำที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ดื่มสุรา การชกมวย หรือการทรมานสัตว์ เช่น กัดปลา ชนโค เป็นต้น นอกจากนี้ยังห้ามไม่ให้จัดการแสดง การประกวดสาวงามที่มีการแต่งกายขัดต่อศีลธรรมอันดี แต่ถ้าทางวัดจะจัดงานก็ได้แต่ต้องควบคุมไม่ให้ขัดต่อศีลธรรมหรือยั่วยุกามารมณ์ตามข้อห้ามที่กฎหมายกำหนด
นายชำนาญวิทย์อธิบายต่อไปว่ามูลเหตุของการออกประกาศทั้งในส่วนของนายอำเภอเมืองสิงห์บุรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดสิงห์บุรี สืบเนื่องมาจากมีผู้มาร้องเรียนทั้งทางจังหวัดและสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ว่ามีการจัดการพนันสอยดาวในวัด จึงได้หารือกับหลายหน่วยงาน ตรวจสอบข้อกฎหมายและหนังสือสั่งการ พบว่ามีการสั่งการมาตั้งแต่ปี 2537 สมัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์ แจ้งเป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่จะอนุญาตให้เฉพาะงานกาชาด เท่านั้น
“ผู้ร้องเรียนบอกว่า ถ้าไม่อนุญาตให้ฉันจัด ฉันก็จะร้องอีก 100 วัด เพราะอีก 100 วัดเขาจัดกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นหน้าที่ของนายอำเภอที่จะต้องออกหนังสือเตือนไปให้รับทราบและถือปฏิบัติ จะได้ระมัดระวังเดี๋ยวจะมีคนมาร้อง นี่แหละสาเหตุที่ว่าทำไมสิงห์บุรีจึงเป็นจังหวัดเดียวที่มีการออกประกาศห้ามออกมา”
ส่วนเหตุที่ว่าทำไมการสอยดาวจึงถือเป็นการพนัน นายชำนาญวิทย์อธิบายว่า นิยามของคำว่าการพนันคือการเสี่ยงโชค เสี่ยงโชคคือไม่แน่แท้ว่าจะได้อะไรแบบไหน คุณต้องเอาเงินไปซื้อสลาก แล้วเอาสลากนั้นไปให้เจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าไปเสี่ยงโชคและโชคที่ว่านั้นจะเป็นอะไรไม่ทราบ จะได้น้อย ได้มากไม่รู้ นี่เขาเรียกว่าเสี่ยงโชค แต่ถ้าเป็นการแลกของกับของ แบบนี้ไม่ถือเป็นเป็นการเสี่ยงโชค ส่วนการตักปลาก็มีลักษณะเดียวกัน
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ถ้าจะมีทางออกด้วยการขออนุญาตให้วัดจัดสอยดาวเป็นรายๆ ไปจะได้หรือไม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีกล่าวตอบว่า ผู้มีอำนาจไม่สามารถอนุญาตให้ได้ เพราะไปติดเงื่อนไขการพนันห้ามจัดในวัดจะจัดได้เฉพาะงานกาชาดหรืองานประจำปีของจังหวัดเท่านั้น เป็นนโยบายเรื่องการปราบปรามอบายมุข ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2537 อะไรที่จะจัดนอกเหนือจากงานกาชาดหรืองานประจำปีของจังหวัดจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ขืนออกไปผู้มีอำนาจคือนายอำเภอก็จะผิดวินัยราชการ ดังนั้นการออกคำสั่งของนายอำเภอเมืองฯ และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เป็นการกระทำตามกฎหมายและมติของมหาเถรสมาคมฯ
ส่วนกรณีที่มีการคอมเม้นท์หรือแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียล วิพากษ์วิจารณ์พาดพิงไปต่างๆ นานา ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีกล่าวว่า จะต้องระมัดระวังอย่าให้ไปหมิ่นประมาทใคร ที่พูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปว่าใคร แต่อยากให้ชาวสิงห์บุรีพูดจากันด้วยเหตุด้วยผล ก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- ร้อง ทม.บางระจัน ทำถนนสูงเกินไป จนเข้า-ออกบ้านไม่ได้!!!
- ชาวบ้านร่วมพิธีบวงสรวงเคลื่อนย้ายศาลาเก่า อายุ 100 ปี (หลวงปู่ศรี วาจาสิทธิ์) เกจิชื่อดังจังหวัดสิงห์บุรี!!
- ยายวอนทั้งน้ำตา!! ฐานะยากไร้ ขอรับบริจาคผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้หลานสาวที่พิการ
- อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ จัดพิธีไหว้ครู-ครอบครู
- ผวจ.สิงห์บุรีลงพื้นที่หนองระหาน วางแผนพัฒนาเป็นที่เก็บน้ำ