ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ของวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลบางกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี รวมตัวกันเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากเคหะชุมชนสิงห์บุรี(บางกระบือ) ที่ปล่อยน้ำเสียออกมาสู่ลำรางสาธารณะ และไหลลงยังพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน ทำให้ได้รับความเสียหาย
นายชำนาญ ชัยศิลป์ ชาวนาที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ตนมีที่นาอยู่ติดกับเคหะชุมชนฯจำนวน 3 ไร่ ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำเสียที่ระบายออกมาจากเคหะชุมชนฯ ไหลเข้ามาในพื้นที่นาของตนเองอยู่เป็นประจำ ทำให้ต้องสูบน้ำในนาข้าวออกทุกวัน และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำ เท่ากับเพิ่มต้นทุนในการผลิตโดยไม่จำเป็น
ส่วนผลผลิตที่ได้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่นา 3 ไร่ ได้ข้าวเปลือกไม่ถึง 1 ตัน เนื่องจากน้ำที่ไหลลงสู่ท้องนาของตนนั้นเป็นน้ำเสีย มีสีดำและมีกลิ่นเหม็นเน่า จึงต้องการให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เข้ามาดูแลและแก้ไขเป็นการด่วน
ในขณะที่นายสมมาตร (สงวนนามสกุล) ชาวบ้านในพื้นที่อีกราย ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูสถานีบำบัดน้ำเสียและบ่อบำบัดน้ำเสียของเคหะชุมชนฯ โดยนายสมมาตรเปิดเผยว่า สถานีบำบัดน้ำเสียและบ่อบำบัดน้ำเสียไม่เคยพบว่าเปิดทำการบำบัดเลย และมีการปล่อยน้ำเสียให้ไหลไปตามธรรมชาติ จนกระทั่งไหลลงสู่พื้นที่นาของชาวบ้านจนได้รับความเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าว THAI TIME ได้สอบถามไปยังสำนักงานเคหะจังหวัดลพบุรี ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเคหะชุมชนสิงห์บุรี(บางกระบือ) ได้รับคำชี้แจงว่า ฝ่ายบริหารทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างมาตรวจสอบระดับน้ำในบ่อหลา ทราบว่ามีการไหลลงพื้นที่นาของชาวบ้านจริง ซึ่งเบื้องต้นได้แก้ไขด้วยการสูบน้ำจากบ่อหลาออกเพื่อไม่ให้ไหลลงนาข้าวของชาวบ้านอีก พร้อมกับอุดทางระบายน้ำในพื้นที่ของการเคหะไม่ให้ไหลลงสู่นาของผู้เดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่การเคหะฯ แจ้งว่า น้ำที่ไหลลงนาข้าวมีทั้งเป็นน้ำฝนที่ตกลงมาในปริมาณที่มากรวมอยู่ด้วย ไม่ใช่น้ำที่มาจากการระบายน้ำเสียจากเคหะชุมชนฯ อย่างเดียว
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ได้รายงานให้การเคหะแห่งชาติฝ่ายก่อสร้างโครงการรับทราบแล้ว เพื่อจะได้นัดมาประชุมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนร่วมกับผู้เสียหายในระยะยาวต่อไป
………………………………..
By : โสภิดา เผือกพันธ์ ผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
