ตัวแทนชาวตำบลโรงช้าง บุกศาลากลางสิงห์บุรี ขอฟังคำตอบผลสอบ นายก อบต.กรณีซื้อถุงยังชีพ ด้านประธานเครือข่าย ปปท.ยืนยันจะติดตามผลคดีจนถึงที่สุด!!
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี ได้มีตัวแทนจากชาวตำบลโรงช้าง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ประมาณ 20 คน เดินทางมาขอเข้าพบ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีที่มีชาวบ้านร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงธรรมสิงห์บุรี ให้สอบสวน นายก อบต.โรงช้างในการจัดซื้อสิ่งของบรรจุในถุงยังชีพไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน แต่เนื่องจากผู้ว่าฯ ติดภารกิจ จึงมอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีและคณะ มาทำหน้าที่พบปะกับชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวแทน
สำหรับประเด็นที่ชาวตำบลโรงช้างต้องการทราบความคืบหน้าก็คือ ผลการตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายก อบต.โรงช้าง ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีประกาศว่าจะสรุปผลให้ทราบภายในวันที่ 5 พฤษภาคม โดยกลุ่มชาวบ้านต้องการให้ทางนายอำเภอพรหมบุรี เร่งสอบสวนและหาข้อสรุปโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้มีชาวบ้านบางรายได้รับการข่มขู่ให้ยุติการร้องเรียน จึงเกรงว่าจะส่งผลต่อพยานหลักฐานรวมไปถึงความปลอดภัย
ขณะที่นายวิจิตร เลิศไพบูลย์วงศ์ ประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ปปท.จังหวัดสิงห์บุรี หนึ่งในผู้ร่วมพบปะกับกลุ่มชาวบ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว THAI TIME ว่า ได้ติดตามปัญหาการนำเงินสะสมมาจัดซื้อถุงยังชีพของ อบต.โรงช้าง มาโดยตลอด นับตั้งแต่เกิดกระแสข่าวการปฏิเสธจากชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ที่คลางแคลงใจว่าอาจจะมีการจัดทำโครงการในลักษณะไม่โปร่งใส ในหลายประเด็น เช่น กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างสิ่งของ มูลค่าของราคา การสำรวจความต้องการของประชาชนที่ผู้ร้องเรียนระบุว่ารวบรัด ไม่ถูกต้อง และชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ต้องการถุงยังชีพ แต่ต้องการเงินสดเพื่อไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นในครัวเรือนเอง ซึ่งทั้งหมดเป็นประเด็นที่จะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามระเบียบของทางราชการ
นายวิจิตรกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้สั่งการให้นายอำเภอพรหมบุรี แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภายใน 15 วัน หรืออย่างเร็วอาจจะสรุปได้ในวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคมนี้ โดยขั้นตอนหลังจากนั้นจะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อพิจารณาลงความเห็นต่อไป
สำหรับประเด็นดังกล่าว นายวิจิตรกล่าวว่า จะต้องตรวจสอบและหาข้อสรุปให้ชัดเจน เนื่องจากเป็นกรณีที่กระทบชื่อเสียงของจังหวัด และจากการพูดคุยกับทั้งฝ่ายผู้ร้องเรียนและทาง อบต. เชื่อว่าคงจะหาคำตอบให้กับชาวบ้านได้แน่นอน
นายวิจิตรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในภาพรวมปัญหาการทุจริตช่วงที่ประชาชนกำลังได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติร้ายแรงไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะเท่ากับเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นกรณีของ อบต.โรงช้าง ตนในฐานะประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ปปท.จังหวัดสิงห์บุรี จะติดตามผลการสอบสวนจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า เป็นไปตามข้อสงสัยของชาวตำบลโรงช้างจริงหรือไม่
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- ยายวอนทั้งน้ำตา!! ฐานะยากไร้ ขอรับบริจาคผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้หลานสาวที่พิการ
- 9 มกราคม ฤกษ์งามยามดี..เปิดตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรีหลังใหม่..
- สิงห์บุรี..เปิดตัวอีกราย!!! พรรคภูมิใจไทย เตรียมส่ง “ภูวเดช มังสาทอง” นายก อบต.พระงาม ชิงเก้าอี้ สส.
- ลงนาม(MOU)ขับเคลื่อนนโยบาย “สิงห์บุรีเมืองเด็กดี มีวินัย”
- ‘ไพบูลย์ไก่ย่าง’เร่งปรับตัวรับมือTOPS PLAZA วางแผนรื้อสร้างใหม่..ให้ทันสมัยเหมือนในห้างฯ