ลานอเนกประสงค์ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เป็นสถานที่ของชมรมรักสุขภาพริมเขื่อน ใช้เป็นแหล่งรวมพลของมวลสมาชิกคนรักการออกกำลังกายทั้งหลาย โดยแต่ละวันจะหมุนเวียนกันมายืดเส้นยืดสายทั้งเช้า-สาย-บ่าย-เย็น ทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นจุดที่ต้องบอกว่า บรรยากาศยอดเยี่ยมมาก ได้ทั้งออกกำลังกายและสามารถผ่อนคลาย ชมวิวทิวทัศน์ริมเจ้าพระยาปากอ่าวไทย แถมยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นกันตลอดทั้งวัน
ภาพรวมดูเหมือนจะราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร แต่เอาเข้าจริงพวกเขาบอกว่า มีปัญหาที่ชมรมรักสุขภาพริมเขื่อน กำลังเผชิญอยู่และเรื้อรังมานาน นั่นก็คือ หลังคาผุพังไปตามสภาพที่ต้องตากแดด ตากลม ตากฝนมาหลายปี และที่เริ่มกังวลกันก็คือเครื่องออกกำลังกายถูกใช้งานมานาน หลายชิ้นเริ่มชำรุด จนสมาชิกต้องช่วยกันซ่อมบำรุงปรับปรุงแก้ไขกันเองเท่าที่พอจะซ่อมได้ โดยสิ่งที่ประชาชนคนรักสุขภาพปากน้ำร้องขอก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ต้องการให้ปรับปรุงหลังคาให้สามารถคุ้มแดดคุ้มฝน ไม่ต้องให้สวยงามเหมือนที่กำลังจะปรับปรุงภูมิทัศน์รอบข้างก็ได้ จะได้ประหยัดงบประมาณของทางราชการ
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่างทีมงานจึงสอบถามไปยัง นายวิมล มงคลเจริญ ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการ ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เกี่ยวกับกรณีการปรับปรุงโครงหลังคาว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ขณะนี้ทางเทศบาลนครสมุทรปราการได้รับมอบพื้นที่สำหรับใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย จากทางจังหวัดสมุทรปราการเรียบร้อยแล้ว โดยมีสภาพชำรุดและผุพังอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน หลังจากได้รับมอบมาแล้ว จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจ นำข้อมูลมาประชุมกำหนดแนวทางแก้ไข พร้อมกับเสนอโครงการให้สภาเทศบาลฯ พิจารณาปรับปรุงอาคารจำนวน 2 หลัง ให้สามารถคลุมเครื่องออกกำลังกายที่ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อนได้เป็นอย่างดี พร้อมเครื่องออกกำลังกายอีก 2 ชุด ซึ่งก็ได้รับอนุมัติจากสภาฯ ให้ใช้งบประมาณประจำปี 2561 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนรูปทรงของอาคาร ทางเทศบาลฯ เน้นการออกแบบให้คำนึงถึงลักษณะการใช้งานเป็นหลัก โดยตัวโครงหลังคาสามารถต้านทานแรงลมได้ดีขึ้น ครอบคลุมเครื่องออกกำลังกายไม่ให้โดนแดดโดนฝนครบทุกตัว ที่สำคัญรูปแบบต้องดูกลมกลืนไปกับแบบที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพื่อความสวยงาม และจะมีการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องกีฬาออกกำลังกายมาเสริมให้ใหม่เป็นแบบ Outdoor อีกจำนวน 18 ชนิด ชนิดละ 2 ชิ้น คาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการตามระเบียบราชการได้ทั้งหมด ประมาณปลายเดือนพฤษภาคม 2562 แน่นอน
