เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้มีการประชุมสภาเทศบาลตำบลทับยาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาวาระการใช้งบประมาณจ่ายขาดเงินสะสม ตามที่ฝ่ายบริหารเสนอ เพื่อนำไปจัดทำโครงการปรับปรุงถนนทางเข้าหมู่บ้านบางพระนอน ที่มีอยู่ 30 หลังคาเรือน ขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 70 เมตร วงเงินงบประมาณ 455,600 บาท ที่ไม่ผ่านการพิจารณาจากการประชุมสมัยสามัญคราวที่แล้ว โดยบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากมีชาวบางพระนอน เดินทางเข้ามาร่วมรับฟังการประชุมด้วยจำนวนหนึ่ง ประกอบกับมีการโต้แย้งกันไปมาระหว่างฝ่ายบริหารและสมาชิกสภา ในหลายประเด็น เพราะความเห็นไม่ตรงกัน
ประเด็นที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาอภิปรายโต้แย้งข้อเสนอของฝ่ายบริหาร ซึ่งนำโดยนายธนิสร โนนวิเศษ นายกเทศมนตรีตำบลทับยาและคณะ ก็คือยังไม่มีความจำเป็นต้องรื้อถนนทำใหม่ทั้งหมด เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด เกรงว่าในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้าอาจจะมีปัญหาน้ำเหนือหลาก ซึ่งพื้นที่ตำบลทับยาอยู่ในจุดต่ำ มักถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหายเสมอ จึงควรสงวนเงินสะสมที่เหลืออยู่เพียง 2.5 ล้านบาทเศษ เอาไว้ให้มากที่สุด โดยต่อรองขอปรับลดงบประมาณเป็นแค่การซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้ชั่วคราวในวงเงิน 1 แสนบาทเศษ ได้หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีสมาชิกสภาฯบางส่วนเกิดความเคลือบแคลงว่า นายธนิสรอาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นำมวลชนมากดดัน ทั้งๆ ที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการหารือนอกรอบ โดยมีนายอำเภออินทร์บุรีเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย และมีข้อสรุปร่วมกันว่า ให้พบกันครึ่งทางคือ อนุมัติงบประมาณให้เฉพาะการซ่อมบำรุง แต่ทำไมพอถึงวันประชุมจริงจึงมีมวลมากดดันให้อนุมัติเต็มวงเงิน จนกลายเป็นชนวนความไม่พอใจในระหว่างการประชุมขึ้นมาอย่างรุนแรง สุดท้ายที่ประชุมใช้วิธีลงมติ ผลออกมาคือไม่รับหลักการอีกเป็นครั้งที่ 2 ด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 5 เป็นอันว่างบประมาณดังกล่าวตกไป สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบางพระนอนที่มาร่วมรับฟังการประชุมด้วย
ในขณะที่หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายเชนทร์ คนชาน หนึ่งในสมาชิกสภาเทศบาลตำบลทับยา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุคส์ส่วนตัว “Chen Konchan” ข้อความว่า.. “ #ฝากถึงลุงตู่ที่เคารพรัก ตอนนี้หน่วยงานท้องถิ่นผมเละเทะเหลือเกิน ทั้งปัญหาภายใน ปัญหาการบริหาร และปัญหาอื่นๆอีกเยอะแยะ ช่วยปลดล็อคเลือกตั้งท้องถิ่นภายในเร็ววันได้ไหมครับ “ล้างไพ่ ล้างบาง” ทั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาฯกันใหม่ให้หมด ก่อนที่มันจะเน่าแฟะไปยิ่งกว่านี้” ..พร้อมแนบภาพถ่ายของตนเองนั่งอยู่ที่ป้ายหน้าสำนักงานเทศบาล ด้วยท่าทางที่แสดงถึงความสิ้นหวัง ซึ่งการโพสต์ข้อความดังกล่าว สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนสมาชิกในเฟสบุคส์และกลุ่มผู้สนับสนุน โดยมีการร่วมแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
สท.เชนทร์ คนชาน กล่าวกับกองบรรณาธิการ เพจ “Singburi Review” ถึงเหตุผลและรายละเอียดของการโพสต์ข้อความดังกล่าวว่า รู้สึกอึดอัดและหมดความหวังกับสภาพการบริหารงานภายในเทศบาลตำบลทับยามาก จนต้องใช้คำว่าเละเทะจึงจะเหมาะสม เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารและสภาฯ ไม่สามารถตกลงกันได้ มักมีปัญหาโต้แย้งกันแทบทุกโครงการ มีการแบ่งขั้วแบ่งค่ายกันอย่างชัดเจน จนส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน ไม่สามารถผลักดันงบประมาณลงไปพัฒนาพื้นที่ได้ตามที่ควรจะเป็น
“ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใด แต่ผมไม่เห็นทางออกเลยครับ คือบังเอิญวันนี้มีประชาชนเข้ามาร่วมรับฟังด้วย เลยยิ่งเพิ่มแรงกดดันหนักยิ่งขึ้น สมาชิกหลายคนรู้สึกว่าทำไมต้องเอามวลชนมากดดันการทำงานกันด้วย เอาเป็นว่า ผมยากให้รัฐบาลเร่งปลดล็อค ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเร็วๆ ปัญหาจะได้จบเสียที” สท.เชนทร์กล่าว
ทางด้านนายธนิสร โนนวิเศษ นายกเทศมนตรีตำบลทับยา กล่าวกับกองบรรณาธิการ เพจ “Singburi Review” ว่า ตนเองไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการนำมวลชนมากดดันในระหว่างการประชุม ในเมื่อประชาชนต้องการมาฟังผลการประชุมด้วยตนเอง ก็ไม่สามารถกีดกันหรือห้ามปรามได้ พร้อมกับยอมรับว่ามีปัญหาในการบริหารงานมาสักระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากสภาฯและฝ่ายบริหาร เป็นคนละขั้วการเมืองกัน ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการขออนุมัติงบประมาณแทบทุกโครงการ
“ผมก็ท้อใจ ทำไมจึงเป็นแบบนี้ ฝ่ายบริหารมีความตั้งใจ แต่ติดปัญหาที่เรามีเสียงในสภาฯน้อยกว่า ยกตัวอย่างง่ายๆ ตำบลทับยาเป็นตำบลเดียวในอำเภออินทร์บุรีที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ทุกตำบลเขามีกันหมดแล้ว หากเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นมาประชาชนก็จะมาหาว่าฝ่ายบริหารไม่ทำงาน แต่เราเสนอโครงการไป 1 ล้านบาทเศษ สภาฯก็ไม่อนุมัติ เป็นอย่างนี้มาตลอด” นายธนิสรกล่าว
ต่อคำถามที่ว่า จะมีวิธีการใดที่จะประสานหรือทำความเข้าใจกันได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากนัก นายธนิสรตอบอย่างถอดใจว่า ไม่มี ยังไม่เห็นช่องทางใดเลย นอกจากเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีพิจารณายุบสภาฯ แล้วแต่งตั้งข้าราชการมารักษาการแทน จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้งเท่านั้น ปัญหาจึงจะยุติ
BY : เพจ Singburi Review ในเครือสำนักข่าว THAI TIME