เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วฯ สิงห์บุรี เปลี่ยนวิธีคิดชาวบ้านสำเร็จ!! รณรงค์งดพวงหรีดดอกไม้ เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ มอบผู้ยากไร้-โรงเรียน-โรงพยาบาล ทั่วทั้งจังหวัด!!
“พวงหรีด” มีไว้สำหรับใช้แสดงความไว้อาลัยในงานศพ เพื่อระลึกถึงผู้จากไป ที่นิยมทั่วไป มีอยู่ 2 ชนิด คือ พวงหรีดดอกไม้สด และพวงหรีดดอกไม้แห้ง แต่พบว่าเมื่อเสร็จงานแล้ว พวงหรีดดอกไม้ต่างๆ จะถูกทิ้งไปอย่างไร้ประโยชน์ ที่สำคัญมีราคาค่อนข้างแพง ประมาณ 400-3,000 บาท แล้วแต่ขนาดและวัสดุที่ใช้ตกแต่ง
แต่หลังจากเสร็จงานแล้ว ไม่มีเจ้าภาพคนไหนนำพวงหรีดสวยงามเหล่านี้กลับบ้าน เนื่องจากคนไทยมีความเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้วว่า การให้พวงหรีดก็เพื่อแสดงความโศกเศร้าต่อผู้ที่จากไป หากนำเข้าบ้านเกรงว่าจะพบเจอแต่เรื่องร้ายๆ จึงทิ้งไว้ที่วัด ทำให้พวงหรีดดอกไม้นั้นกลายเป็นขยะที่ต้องกำจัดไปในที่สุด
พระครูสุนทรพัฒนาลังการ เจ้าคณะตำบลจักรสีห์ เขต 2 เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แก้วนพคุณ ต.บางพุทรา อ.เมือง จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า อาตมาเริ่มมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการแสดงความไว้อาลัย จากที่มีการมอบพวงหรีดเป็นสิ่งของที่สามารถนำกลับไปสร้างประโยชน์ได้อีก
โดยเริ่มเมื่อปี พ.ศ.2555 ด้วยการขอความร่วมมือจากแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายเปลี่ยนจากพวงหรีดดอกไม้ เป็นพวงหรีดที่ใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งจะได้ประโยชน์สองอย่างพร้อมๆ กัน คือ ได้แสดงความอาลัย และได้ทำบุญร่วมกับผู้ล่วงลับด้วย พร้อมกับมีการตั้งป้าย “No หรีด” ทุกศาลา
เริ่มแรกทางวัดขอความร่วมมือเป็นพวงหรีดเก้าอี้ เพราะทางวัดขาดแคลน ปรากฎว่าขณะนี้ทุกศาลาในวัดจะมีเก้าอี้เพื่อบริการสาธุชนจนครบถ้วนเพียงพอแล้ว ต่อมาจึงขอความร่วมมือเปลี่ยนเป็นหรีดอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน หรือจะเป็นผ้าห่มก็ได้
พระครูสุนทรพัฒนาลังการ กล่าวว่า ช่วงแรกๆ ญาติโยมบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ เหมือนเป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมที่เขายึดถือมา แต่เมื่อเราทำให้เห็นว่าควรจะเปลี่ยนจากสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ให้เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ แถมได้บุญมากอีกด้วย ญาติโยมก็เริ่มเข้าใจและปฏิบัติตาม
พระครูสุนทรพัฒนาลังการ กล่าวต่อไปว่า จนปัจจุบันมีการแสดงความไว้อาลัยเป็นพวงหรีดดอกไม้น้อยมาก เมื่อเสร็จงานอาตมาก็จะให้ทางเจ้าภาพนำพวงหรีดสิ่งของที่มีประโยชน์เหล่านี้ไปบริจาคให้กับผู้ยากไร้ต่อไป แต่ส่วนมากเจ้าภาพมักจะมอบให้กับทางวัดเพื่อนำไปทำสาธารณประโยชน์แทน
สำหรับพัดลมที่เจ้าภาพมอบให้ทางวัด อาตมาได้รวบรวมนำไปมอบให้โรงพยาบาลสิงห์บุรี เนื่องจากเคยเห็นว่า เมื่อมีผู้ป่วยมารักษาตัวในห้องรวม ญาติก็จะนำพัดลมมาเอง ทางวัดจึงมอบพัดลมให้ตั้งไว้ประจำทุกเตียงจนครบ แล้วขยายต่อไปมอบให้แก่โรงพยาบาลอินทร์บุรี, โรงพยาบาลท่าช้าง, โรงพยาบาลพรหมบุรี, โรงพยาบาลค่ายบางระจัน และ โรงพยาบาลบางระจัน จนครบทุกโรงพยาบาลในจังหวัดสิงห์บุรี
หลังจากนั้นก็เริ่มไปมอบให้ตามโรงเรียนที่ขอมา เช่น วิทยาลัยเทคนิค หรือตามโรงเรียนต่างๆ สถานสงเคราะห์คนชรา และคนที่ยากไร้ นอกจากนี้ยังมีชุดนักเรียน ข้าวสาร ผ้าห่ม ที่นำไปบริจาคด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ พระครูสุนทรพัฒนาลังการ ยังมีความเมตตาส่งเสียมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กที่เรียนดีแต่ยากจน โดยผ่านการคัดเลือกจากอาจารย์โรงเรียนในจังหวัดสิงห์บุรี สามารถมาพักที่วัดได้ ส่งเสียตั้งแต่ระดับประถม มัธยม และปริญญาตรี จนจบไปแล้วก็หลายคน และมีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนในจังหวัดสิงห์บุรี ในวันแม่แห่งชาติ คือ วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี
“..ในการส่งเสียเด็กเรียนดีแต่ยากจนนี้ อาตมาทำมาโดยตลอดตั้งแต่อาตมาอุปสมบท ในปี พ.ศ.2533 เป็นต้นมา โดยมีญาติโยมและพุทธศาสนิกชนมาร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนบุญในเรื่องนี้มาโดยตลอด..” พระครูสุนทรพัฒนาลังการกล่าว
BY : ณัฐนารา ปานมี ผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- ผู้ว่าฯ สิงห์บุรี สั่งปิดสถานบริการเพิ่ม ถึงคิวปิดห้างฯ-ตลาดนัด อนุญาตเฉพาะโซนจำหน่ายอาหารซื้อกลับบ้าน!!
- ออกตรวจราคาสินค้าสิงห์บุรี พบ 2 ปัจจัยทำราคาไข่ไก่พุ่ง วอนอย่าตื่น-ซื้อกักตุน
- 18 มีนาคม พาณิชย์สิงห์บุรี เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาถูก 4 จุด
- มั่นใจได้ #ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ตั้งจุดคัดกรองนักท่องเที่ยวละเอียดยิบ‼️
- เกาะติดความคืบหน้า ตลาดสดเทศบาลสิงห์บุรี