ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 ก.ค. 66) เวลาประมาณ 09.00 น. มีเจ้าหน้าที่พยาบาลและบุคลากรโรงพยาบาลสิงห์บุรี ประมาณ 30 คน ออกมายืนชูป้ายประท้วง นายแพทย์สุรัตน์ ส่งวิรุฬห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี เนื่องจากมีความไม่พอใจในการบริหารงานหลายประเด็น สร้างความงุนงงให้กับคนไข้และประชาชนทั่วไปที่มารับบริการ
ต่อมาฝ่ายบริหารได้เชิญผู้ประท้วงทั้งหมด พร้อมสื่อมวลชนไปยังห้องประชุมพิกุลทอง ชั้น 3 ของโรงพยาบาล เพื่อเปิดโอกาสให้สอบถามความต้องการและชี้แจงข้อเท็จจริง
สำหรับประเด็นที่มีการสอบถามระหว่าง ผู้ประท้วงและผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิงห์บุรี พอสรุปได้ดังนี้
ประเด็นแรก ผู้ประท้วงมีความคลางแคลงใจเรื่องตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล ทำไมคนที่ควรจะได้รับแต่งตั้งกลับไม่ได้ ซึ่งมีการประเมินแบบ 360 องศาไป คนที่ได้เป็นคนของผู้อำนวยการใช่หรือไม่?
นายแพทย์สุรัตน์ กล่าวตอบว่า การประเมินแบบ 360 องศา มีสัดส่วนในการถ่วงน้ำหนักคะแนนทั้งหมดเพียง 15% เท่านั้น ที่เหลืออีก 75% ทางเขตสุขภาพที่ 4 มีคณะกรรมการตัดสินใจ ซึ่งผู้อำนวยการ รพ.สิงห์บุรี เป็นเพียงหนึ่งในคณะกรรมการนั้นด้วย หากต้องการทราบผลการให้คะแนนทั้งหมด ผู้เกี่ยวข้องสามารถประสานขอดูรายละเอียดได้ที่ เขตสุขภาพที่ 4
ประเด็นที่สอง ผู้ประท้วงสอบถามเรื่องเสาธงบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล ทำไมต้องทำใหม่ ด้วยงบประมาณ 7-8 แสนบาท , เสื้อสีฟ้าที่พยาบาลใส่ สั่งจากพรรคพวกของผู้อำนวยการใช่หรือไม่ , การทาสีตึกเพียงด้านเดียว ควรจะเอางบประมาณไปพัฒนาเครื่องมือแพทย์ดีกว่าไหม?
นายแพทย์สุรัตน์กล่าวตอบว่า เรื่องเสาธงหน้าโรงพยาบาล มีความจำเป็นต้องย้ายเพราะกีดขวาง การจราจร ขวางทางเข้า-ออกของรถยนต์ ที่จะเข้าจอดในห้องฉุกเฉิน และอาคารจอดรถด้านหลัง แต่ถ้าไม่อยากให้ย้ายก็สามารถยุติได้ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ
ส่วนเรื่องเสื้อสีฟ้า ทางโรงพยาบาลจัดซื้อผ้ามาให้กลุ่มแม่บ้านที่ ต.แม่ลา เป็นผู้ตัดเย็บให้ โดยผ้าซื้อมาจากกรุงเทพฯ และไม่ใช่พรรคพวกของตนแต่อย่างใด ส่วนการทาสีตึกด้านเดียว เกิดจากการหารือกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ในช่วงที่จะมีงานสมโภชศาลหลักเมือง จำเป็นต้องทำเร่งด่วน จึงทาสีเพียงด้านเดียว เพื่อให้ภูมิทัศน์ของศาลหลักเมืองสิงห์บุรีมีความสง่างาม ในวงเงินค่าจ้าง 7 หมื่นบาท
สำหรับการพัฒนาทางการแพทย์นั้น ปัจจุบัน หากดูตามแผนจะเห็นได้ว่า ได้จัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ไปหลายรายการตามความเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น กล้องส่องกระเพาะลำไส้ ล่าสุดมีโครงการสร้างห้องล้างสารเคมี และขยายห้องฉุกเฉินเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับความจำเป็นและระเบียบการใช้งบประมาณของทางราชการ
ประเด็นที่สาม ผู้ประท้วงสอบถามเรื่องการเปลี่ยนโลโก้ของโรงพยาบาล ทำไมต้องให้ประชาชนภายนอกมาร่วมออกแบบ ทั้งที่นักออกแบบในโรงพยาบาลก็มี ที่สำคัญผลของการการเปลี่ยนโลโก้ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการเปลี่ยนผ้าปู และชุดผู้ป่วยด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้อำนวยการ รพ.สิงห์บุรี ตอบผู้ประท้วงว่า การเปลี่ยนโลโก้ โดยการเชิญบุคคลภายนอกมาร่วมประกวด ทางโรงพยาบาลอยากให้หลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งการเปลี่ยนโล้โก้องค์กร หลายๆ แห่งก็เปลี่ยนกันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลต่อการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและชุดผู้ป่วย ให้สอดคล้องกับโลโก้ใหม่นั้น ไม่ได้ดำเนินการทันทีทั้งหมด แต่จะใช้วิธีค่อยๆ ดำเนินการ เมื่อถึงช่วงเวลาต้องปลี่ยนใหม่ จึงค่อยใส่โลโก้ใหม่เข้าไป ซึ่งเป็นหลักการบริหารงานตามปกติทั่วไป
ประเด็นคำถามที่สี่ เรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณที่ผู้ประท้วงมองว่ายิบย่อย เบิกจ่ายไปใช้อะไร? เบิกเหมือนถูกล็อตเตอรี่?
นายแพทย์สุรัตน์ กล่าวตอบผู้ประท้วงว่า การเบิกจ่ายเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหาร ที่จะเป็นผู้กลั่นกรองว่าจะอนุมัติหรือไม่ ตนไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจเอง
ช่วงท้ายสุด ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ นางสาวสนทนา มีสกุลถาวร หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ ชั้น 6 โรงพยาบาลสิงห์บุรี ถึงการบริหารจัดการของโรงพยาบาลว่า เป็นไปตามที่มีการประท้วงหรือไม่ โดยนางสาวสนทนากล่าวว่า ทุกขั้นตอนต้องผ่านคณะกรรมการบริหาร ซึ่งตามที่ตนเองได้เข้าร่วมประชุม ก็เป็นไปตามที่นายแพทย์สุรัตน์ ส่งวิรุฬห์ ผอ.โรงพยาบาลสิงห์บุรี กล่าวชี้แจงทุกประการ
……………………….
