โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และอธิบดีกรมการแพทย์ แจงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือคนไทยในต่างแดนให้พ้นภัยโควิด ย้ำชัด!! จะอยู่ไกลแค่ไหน คนไทยไม่ทิ้งกัน!!
จากแถลงการณ์ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประจำวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 ณ กระทรวงสาธารณสุข โดยนายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศมาแล้วทั้งหมด 69,764 คน จาก 97 ประเทศ จำนวนการอนุมัติรับคนไทยกลับเข้าประเทศต่อวันเพิ่มขึ้นจาก 200 คน เป็น 600 คน ตามความพร้อมของมาตรการดูแลและสถานกักกัน State Quarantine
โดยในเดือนสิงหาคมนี้มีคนไทยประสงค์เดินทางกลับประเทศอีกเป็นจำนวน 14,080 คน ซึ่งในเบื้องต้นผู้ประสงค์จะเดินทางกลับจำเป็นจะต้องมีเอกสารยืนยันอย่างน้อย 2 รายการ ได้แก่ ใบรับรองแพทย์ว่าเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ (fit-to-fly) และ เอกสารรับรองจากสถานทูตในประเทศต้นทางเสียก่อน
ดังนั้นสำหรับคนไทยที่ยังตกค้างอาจจะด้วยอาการป่วย-ตกงาน เอกสารไม่ครบ เป็นแรงงานผิดกฎหมาย หรือจากเหตุสุดวิสัยอย่างเที่ยวบินไม่เพียงพอ ก็ยังจะต้องค่อยๆ ติดตามพิจารณากันไปแบบ case-by-case
ในส่วนของคนไทยในต่างแดนที่ยังไม่ประสงค์เดินทางกลับหรือไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ ทางสถานกงสุลไทยและสถานทูตก็มีการดำเนินการประสานความช่วยเหลืออย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร การแพทย์ การติดต่อขอเอกสารไปจนถึงการจัดหาเที่ยวบินสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย และยังได้จัดตั้งกลุ่ม Line รวบรวมชาวไทยในต่างแดนเพื่อติดตามสถานการณ์ความคืบหน้ากันอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ยังได้กล่าวเสริมว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเองก็ได้มีการเตรียมการจัดตั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญฉุกเฉินชาวไทย พร้อมกับวางระบบระบบการแพทย์ทางไกล (telemedicine) เอาไว้เพื่อติดตามดูแลให้คำปรึกษาทั้งการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิดผ่านระบบ online ไว้ด้วยเช่นกัน
ด้านคำถามคาใจประชาชนอย่างเช่น การขอเข้าประเทศของคู่สมรสและบุตรของชาวไทยในต่างแดนที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กรณีนี้นายเชิดเกียรติมีความเห็นว่ายังคงต้องพิจารณาแบบ case-by-case เช่นเดียวกัน และจำเป็นจะต้องมีเอกสารรับรองใดๆ ที่เทียบเท่ามายืนยันสถานะเป็นการทดแทน ส่วนผู้ที่สามารถผ่านการกักตัวใน State Quarantine เข้ามาได้แล้วนั้นก็ยืนยันว่าปลอดภัย 100%
สุดท้ายหากยังมีคนไทยที่ต้องการความช่วยเหลือก็สามารถติดต่อเข้าไปยังสายด่วน hotline ของกรมการกงสุลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-572-8442
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- สรุปข่าวเด่นประจำวัน (9.00 น. 22 ก.ค. 63)
- สรุปข่าวเด่นประจำวัน (9.00 น. 2 ก.ค. 63)
- มหาดไทยส่งหนังสือจี้ผู้ว่าฯ กวดขันท้องถิ่นห้ามทุจริต งบฯเยียวยาโควิด-19
- ให้อำนาจผู้ว่าฯ ปิดหมู่บ้าน ที่มีคนป่วย COVID-19 ห้ามเข้า-ออก ชั่วคราว กักตัวผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล 14 วัน
- สำรวจความคืบหน้า..การก่อสร้างถนนแพรกษา