ผวาสื่อโซเชี่ยลเผยแพร่ข้อมูลตุ๋นถึงชาวบ้านเร็ว!!! DSI เร่งหาทางสกัด จับมือจังหวัดสิงห์บุรีนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 เปอร์เซ็นต์ในภาคกลาง เผยชาวสิงห์บุรีโดนหลอกลวงมาแล้วถึง 100 ราย !!!
พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงปัญหาแชร์ลูกโซ่ว่า ถือเป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาล ที่เน้นให้ต้องปราบปรามให้หมดสิ้นไป เนื่องจากเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมและสร้างความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง ส่วนเหยื่อที่จะโดนหลอกนั้นมีทุกระดับ เช่น แชร์คนรวย ก็จะมีการเล่นแชร์ค่าเงิน หรือ แชร์ทองคำ ถ้าเป็นแชร์ระดับกลางก็จะเป็น แชร์ลอตเตอรี่ แชร์ก๋วยเตี๋ยว หรือระดับล่างก็จะเป็นแชร์ฌาปนกิจศพ หรือประเภทสินค้าเกษตร ซึ่งแนวทางป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ ให้ประชาชนรู้เท่าทันเล่ห์กลของมิจฉาชีพเหล่านี้ โดยระหว่างปี พ.ศ. 2547 – 2560 มีคดีพิเศษเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่กว่า 150 คดี มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท
ด้านนายสุทธา สายวาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดสิงห์บุรี ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก โดยที่ผ่านมาพบปัญหาชาวสิงห์บุรีถูกแชร์ลูกโซ่หลอกประมาณ 100 ราย แต่เป็นการชักชวนมาจากคนนอกพื้นที่ ซึ่งวิธีการป้องกันนั่นก็คือการให้ความรู้ประชาชน ผ่านกลไกของศูนย์ดำรงธรรม ลงไปถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้คอยสอดส่องดูแล และให้ความรู้กับคนในพื้นที่
ต่อคำถามที่ว่า สิงห์บุรีเป็นจังหวัดที่มีประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ จะมีวิธีการป้องกันอย่างไรให้ได้ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีกล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดก็คือให้ความรู้ ให้เขาแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือการลงทุนที่แท้จริงและอะไรก็คือการหลอกลวง โดยมีหลักคิดง่ายๆ ว่า ถ้ามีใครมาบอกว่าสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าปกติได้ ให้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ก่อนว่า น่าจะเป็นการหลอกลวง หรือหากมีข้อสงสัยให้สอบถามมาที่ศูนย์ดำรงธรรม หรือแจ้งมายังกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยตรวจสอบ หากพบมีการกระทำความผิดจะเข้าไปจับกุมดำเนินคดีทันที
“ปัจจุบันมีการแพร่กระขายข้อมูลหลอกลวงผ่านโซเชี่ยลมีเดียรวดเร็วมาก หลายคนมักหลงเชื่อได้ง่าย ก็ต้องขอขอบคุณอธิบดีกรม DSI ที่เข้ามาดำเนินการในการทำ MOU(บันทึกลงนามความร่วมมือ) เพื่อให้จังหวัดสิงห์บุรีปลอดจากแชร์ลูกโซ่ 100% โดยทาง ดีเอสไอจะหาวิธีการป้องกันและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องแชร์ลูกโซ่โดยการลงพื้นที่ผ่านทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน การอบรม แจกแผ่นพับให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้ทราบว่า แชร์ลูกโซ่เป็นการฉ้อโกงประชาชนที่หลอกลวงให้เหยื่อสมัครเป็นสมาชิกร่วมลงทุนในธุรกิจที่ไม่เน้นการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ แต่จะอ้างว่ามีผลตอบแทนสูงมาเป็นเครื่องล่อใจ” นายสุทธากล่าว
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวผ่านรายการ “ผู้ว่าพบประชาชน” ว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงสำหรับสถานการณ์แชร์ลูกโซ่และการหลอกลวงประชาชนก็มีการแพร่กระจายข้อมูลอย่างรวดเร็วผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดีย ด้วยเล่ห์กลในหลากหลายรูปแบบ จึงจำเป็นต้องเร่งหามาตรการป้องกัน ซึ่งการสะกัดกั้นที่ดีที่สุดก็คือการให้ความรู้จะได้รู้เท่าทันและอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างที่มักนำผลประโยชน์ก้อนโตมาเป็นปัจจัยล่อ ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดสิงห์บุรีเคยมีปัญหาแชร์ฌาปนกิจ หรือที่รู้จักกันว่าโครงการ 1 ชีวิต 1 ล้าน มีผู้เสียหายประมาณ 100 ราย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลเรียบร้อยแล้ว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 เวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีกำหนดร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษกับจังหวัดสิงห์บุรี โดย นายสุทธา สายวาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ณ ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยจังหวัดสิงห์บุรีจะเป็นจังหวัดนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 % ในภาคกลาง นอกจากนี้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลและแจ้งเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่นของ ดีเอสไอ. ได้ที่ DSI Extend Map
ภาพ/ข่าว : ณัฏฐนารา ปานมี กองบรรณาธิการ เพจ Singburi Review ในเครือ สำนักข่าว THAI TIME [www.thaitimeonline.com]