ผมเคยแวะเข้าไปที่วัดท่าอิฐนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสได้โพส..เหตุเพราะติดขัดข้อมูลเรื่อง “อิฐ” ที่บังเอิญไปพบที่ฐานพระเจดีย์เก่าอยู่ก้อนหนึ่ง ซึ่งผมไม่มีความรู้เลยไม่กล้านำออกเผยแพร่ จนกระทั่งได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้มาระดับหนึ่ง..
วัดท่าอิฐตั้งอยู่ หมู่ที่ 6 ตำบลท่างาม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี อยู่ใกล้ๆ กับวัดแจ้ง ตามข้อมูลระบุว่า ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2417 หรือ 144 ปีมาแล้ว ดูจากสภาพเข้าขั้นโทรม แต่ไม่ถึงกับมากนัก อันเนื่องมาจากเป็นย่านที่มักจะถูกน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง เพิ่งมาได้พระราชทานวิสุงคามสีมาเอาในปี 2451 เพื่อก่อสร้างอุโบสถให้มั่นคงแข็งแรง ซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จก็ลุล่วงไปถึงปี 2474
พิจารณาจากสภาพโดยรวมอาณาบริเวณวัด ค่อนข้างจะกลมกลืนกับที่พักอาศัยของชาวบ้าน ซึ่งลักษณะดังกล่าวมักพบเห็นทั่วไปในหลายวัด ที่มักพบว่าวัดและชุมชนจะเกื้อกูลและพึ่งพาซึ่งกันและกัน
จุดที่น่าสนใจของวัดแห่งนี้ก็คือ พระเจดีย์เก่า ฐานมีรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง 5 เมตร และสูงราวๆ 4 เมตร และด้วยความบังเอิญขณะเดินสำรวจรอบๆ บริเวณพระเจดีย์ ผมเหลือบไปเห็นอิฐก่อนหนึ่งมีตราประทับเป็นตัวอักษร “MUIHEN CLEE” แต่ถ่ายภาพมาไม่ชัดนัก เลยไม่แน่ใจว่าอักษรตัวหน้าเป็น “K” หรือ “M” พยายามเสิร์ซหาความหมาย ก็ไม่มีคำตอบ เลยส่งข้อความไม่ถามผู้รู้ อ.ปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ ท่านก็กรุณาอธิบายมาว่า เบื้องต้นดูจากภาพไม่น่าจะเป็นภาษาอังกฤษ เพราะไม่มีความหมาย ท่านก็กรุณาไปถามผู้รู้ทางด้านภาษา “อ.น้อย วิกัลย์” มาให้
อ.น้อย อ่านออกมาได้ว่า “กุยเฮงหลี” พอได้คำนี้ออกมา อ.ปฏิพัฒน์เลยออกความเห็นว่า ทำให้นึกถึงโรงกระเบื้อง “จูกวงหลี” ของตระกูล “ยอดมณี” เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นยุคเดียวกัน นั่นคือ พระเจดีย์ที่วัดท่าอิฐ คงจะก่อสร้างในยุคเดียวกันคือ สมัยรัชกาลที่ 6 ลงมา ไม่น่าจะลึกลงไปถึงรัชกาลที่ 5
ทุกวันนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่า บริเวณนี้เคยเป็นโรงอิฐเก่า หรือว่าเป็นท่าเรือขนถ่ายอิฐหรือไม่ เพราะมีคำว่า “ท่า” และในอดีตอิฐย่าน อ.อินทร์บุรีก็มีชื่อเสียงมาก ปัจจุบันยังเห็นสืบทอดกิจการกันอยู่หลายราย แต่มีข้อสังเกตเพิ่มเติมก็คือ วัดย่านใกล้เคียงโดยเฉพาะวัดแจ้ง จะมีกลุ่มเจดีย์เก่าที่ก่อด้วยอิฐคล้ายคลึงกัน หลายองค์ ซึ่งคงต้องศึกษาต่อไปว่าเป็นอิฐชนิดเดียวกับที่วัดท่าอิฐหรือเปล่า???
ยิ่งสังเกตยิ่งน่าสนใจครับ !!! หากมีโอกาสจะแวะเข้าไปเก็บข้อมูลอีกครั้ง หรือใครมีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร เอามาแชร์แบ่งปันเติมเต็มความถูกต้องกันครับ
ส่วนศาลาการเปรียญ เป็นอาคารไม้ สร้างมาได้เกือบจะ 100 ปี แล้ว แต่สภาพยังคงสภาพแข็งแรงใช้งานได้ดี เช่นเดียวกับอาคารหอสวดมนต์ที่ใช้วัสดุไม้ทำให้ดูแปลกตาและมีเสน่ห์น่าสนใจ ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนอาคารก่ออิฐถือปูน.