วัดคู เป็นหนึ่งใน 4 วัด ที่ตำนานระบุว่า เป็นฝีมือการก่อตั้งโดยชาวลาวเวียง(เวียงจันทร์) กลุ่มเดียวกับรากเง้าบรรพบุรุษดั้งเดิมของชาวตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยเคลื่อนย้ายมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แล้วมาตั้งบ้านเรือนใกล้เคียงกันใน 3 หมู่บ้าน คือบ้านสามหาวหรือบ้านสลักหิน , บ้านสามหมื่น และบ้านฉางปูน หลังจากตั้งหลักแหล่งได้มั่นคงแล้ว ได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นมาจำนวน 4 วัด วัดคู , วัดกลางธนรินทร์ , วัดจินดามณี และวัดพุทธาราม โดยยังคงรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของตนไว้อย่างเหนียวแน่นมาจนถึงทุกวันนี้..
และเพิ่งมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี 2459 เป็นหนึ่งในวัดที่ได้ชื่อว่าเก่าและงดงามมากแห่งหนึ่งของอำเภอพรหมบุรี มีอุโบสถเก่า ภายในมีพระประธานปางมารวิชัย ศาลาและกุฏิ ที่ทำจากไม้สัก โดยยังคงสภาพมั่นคงและแข็งแรง ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นของเดิมไว้เกือบทั้งหมด นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีหอระฆังเก่า และศาลาหลวงตาคู เป็นศาลาทรงไทย ภายในมีรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อพระครูวิจิตรธรรมศาสตร์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงตาคูนั่นเอง
นอกจากนี้ ด้านหลังวัดคูเป็นที่ตั้งค่ายพม่า เมื่อครั้งพระเจ้าเชียงใหม่ยกทัพมาที่เมืองชัยนาท ได้ให้ไชยะกยอสู และนนทกยอทา ยกกองทัพหน้าลงมาตั้งที่ค่ายที่ปากน้ำ บางพุทรา แขวงเมืองพรหม โดยจะมาสมทบกับเจ้าเมืองพสิม ซึ่งยกมาทางด่านเจดีย์สามองค์ เพื่อรวมกำลังกันเข้าตีกรุงศรีอยุธยา..ซึ่งปัจจุบันคือ คูค่ายพม่า ติดถนนสายเอเชียฝั่งตะวันออกนั่นเอง
ถ้าใครมีโอกาสแวะไปชิมของอร่อยๆ ในตลาดปากบาง แนะนำให้ขับรถเลยขึ้นทางทางทิศเหนือถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เลยวันกลางธนรินทร์ ไปเล็กน้อย จะพบวัดคูตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เด่นตระหง่านงดงามมาก เหมาะที่จะแวะเข้าไปชมและกราบขอพรหลวงตาคู เป็นอย่างยิ่ง..