เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา บริเณศาลาวัดเทพมงคล หมู่ที่ 4 และที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านไผ่ดำ หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ต.โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี องค์การบริหารส่วนตำบลโรงช้าง อำเภอพรหมบุรี ได้นำถุงยังชีพ รวม 3 หมู่ เป็นจำนวน 322 ชุด เพื่อมาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19
ความครุกรุ่นของปัญหาเริ่มเกิดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 ที่ทาง อบต.ได้ทยอยนำถุงยังชีพแจกจ่ายจำนวน 5 หมู่ ปรากฏว่ามีชาวบ้านหลายคนต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการจัดมอบถุงยังชีพของทาง อบต.โรงช้าง โดยระบุว่าไม่เป็นไปตามความต้องการของชาวบ้าน และพบว่ามีผู้ไม่รับยอมถุงยังชีพที่ทาง อบต.นำมามอบให้จำนวนหนึ่ง
สถานการณ์มาถึงจุดเดือดเอาในวันที่ 30 เมษายน 2563 ขณะที่ อบต.กำลังแจกทั้งหมด 3 หมู่ จำนวน 322 ชุด ปรากฎว่ามีชาวบ้านไม่ประสงค์จะรับถุงยังชีพถึงจำนวน 254 ราย โดยรับไปเพียง 68 ราย เท่านั้น.
ขณะเดียวกันก็มีตัวแทนชาวบ้าน ม.5 ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันลุกขึ้นสอบถาม นายนิสิต ดียิ่ง นายก อบต.โรงช้าง ว่าทำไมจัดเป็นถุงยังชีพมาให้ เพราะไม่เป็นไปตามความต้องการของชาวบ้านส่วนใหญ่ ที่ต้องการเป็นเงินมาเยียวยาในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 มากกว่า
เหมือนกรณีของ อบต.ใกล้เคียง เช่น อบต.ต้นโพธิ์ อบต.โพกรวม อบต.จักรสีห์ ต่างได้รับความช่วยเหลือเป็นเงินเยียวยา จำนวน 2,000 ต่อครัวเรือน และมีเทศบาลตำบลโพสังโฆ อ.ค่ายบางระจัน นำร่องในจังหวัดสิงห์บุรี แจกเงินเยียวยาไปแล้วเป็นที่แรก ไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บรรยากาศในการแจกถุงยังชีพ เป็นไปด้วยความตึงเครียด
ขณะที่นายนิสิต ดียิ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโรงช้าง ได้กล่าวกับชาวบ้านที่มาซักถามว่าการมอบถุงยังชีพว่า การดำเนินงานของ อบต.เป็นไปตามนโยบายของจังหวัดสิงห์บุรี ที่กำหนดไว้ให้มีการช่วยเหลือประชากรในพื้นที่ได้เพียง 3 ครั้งต่อปีงบประมาณ และแต่ละครั้งก็อยู่ในวงเงินไม่เกิน 3,000 บาท ต่อครัวเรือน ขึ้นกับสภาพทางการเงินของแต่ละ อบต. เพราะท้องถิ่นมีเงินไม่เท่ากัน
นายนิสิต ดียิ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโรงช้าง
ส่วนจะช่วยเหลือเป็นสิ่งของอุปโภค บริโภค หรือเงินสดนั้น ก็มีคณะกรรมการประชุมหาข้อสรุปกัน โดยยืนยันว่า อบต.โรงช้างมีวงเงินที่สามารถให้การช่วยเหลือประชาชนได้เพียง 4 ล้านบาท ส่วนการช่วยเหลือในวันนี้ เป็นการช่วยเหลือครั้งแรกที่จะได้ทุกคนที่ประสงค์รับถุงยังชีพ
สำหรับการช่วยเหลือในครั้งที่ 2 ต้องรอข้อมูลจากอำเภอพรหมบุรี ที่ประชาชนไปลงทะเบียนขอรับการช่วยเหลือไว้อีกครั้งหนึ่ง โดยจะไม่ได้รับทุกคน จะได้เฉพาะคนที่เข้าตามเงื่อนไขจากผลกระทบความเดือนร้อนจากโรคระบาดโควิด-19 จริงๆ เท่านั้น
By ภาพ-ข่าว : ณัฏนารา ปานมี ผู้สื่อข่าว THAI TIME ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
Comments
ข่าวที่น่าสนใจ:
- ยายวอนทั้งน้ำตา!! ฐานะยากไร้ ขอรับบริจาคผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้หลานสาวที่พิการ
- 9 มกราคม ฤกษ์งามยามดี..เปิดตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรีหลังใหม่..
- สิงห์บุรี..เปิดตัวอีกราย!!! พรรคภูมิใจไทย เตรียมส่ง “ภูวเดช มังสาทอง” นายก อบต.พระงาม ชิงเก้าอี้ สส.
- ลงนาม(MOU)ขับเคลื่อนนโยบาย “สิงห์บุรีเมืองเด็กดี มีวินัย”
- ‘ไพบูลย์ไก่ย่าง’เร่งปรับตัวรับมือTOPS PLAZA วางแผนรื้อสร้างใหม่..ให้ทันสมัยเหมือนในห้างฯ