
สิงห์บุรีเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าอาภัพพ่อเมืองมากที่สุดจังหวัดหนึ่ง อันเนื่องมาจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด มักจะอยู่ไม่ยืด อยู่ไม่ทน อยู่เพื่อเป็นบันไดก้าวไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่กว่า ไปจังหวัดที่มีบารมีมากกว่า หรือไม่ก็อยู่เพื่อรอเกษียณอายุราชการ ใช้ชีวิตบั้นปลายแบบชิลๆ ส่งผลให้ทิศทางการพัฒนาตกอยู่ในภาวะ “ขาดช่วง” หรือเกิดรอยต่อเชิงนโยบาย ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน
คนมาทีหลังมักจะปรับเปลี่ยนโครงการไปตามแนวความคิดที่ตนเองเชื่อมั่นว่ามันน่าจะดี.. หรือไม่ก็มีข้อมูลที่ไม่สอดรับกับทิศทางของผู้ว่าฯคนเก่า สิงห์บุรีบ้านเราจึงมีสถานะไม่ต่างไปจากเมืองไร้เข็มทิศ มึนๆ งงๆ ถึงขั้นใกล้จะหลงทาง จะเป็นเมืองเกษตรก็ไม่ใช่ จะกลายเป็นย่านอุตสาหกรรมก็ไม่เชิง หรือจะเถิดเทิงไปเป็นเมืองท่องเที่ยวมันก็ยังไม่ชัดเจน..ตกลงเราจะเป็นอะไรกันแน่???
มาถึงผู้ว่าฯคนปัจจุบัน ท่านสุทธา สายวาณิชย์ ที่กระโดดมาจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯจังหวัดตาก ซึ่งหลายคนกากบาทชื่อเอาไว้ล่วงหน้าเลยว่า..มาเพื่อรอเกษียณในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ สงสัยคงจะตามสไตล์เหมือนพ่อเมืองที่ผ่านมาคือ รักษาเนื้อรักษาตัว ขอใช้ชีวิตราชการบั้นปลายแบบธรรมดาๆ ไม่หวือหวาจนน่าหวาดเสียว..เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบ จนต้องผูกมิตรกับทุกฝ่ายแบบไม่ประทะด้วย!?!?
แต่เอาเข้าจริง กลับไม่ธรรมดา!!! ลุยงาน โหมงาน และผลักดันสนองนโยบายของรัฐบาลได้ชนิดเห็นน้ำเห็นเนื้อหลายเรื่อง
เรื่องที่เข้าตา กองบรรณาธิการ เพจ Singburi Review (ในเครือสำนักข่าว THAI TIME) มากที่สุดก็คือ โครงการนิยมไทยยั่งยืนของจังหวัดสิงห์บุรี ที่เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในระดับตำบลทั่วทั้งจังหวัดมาตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม 2561 รวมเบ็ดเสร็จถึง 378 หมู่บ้าน ซึ่งกองบรรณาธิการจับตาใกล้ชิดมาโดยตลอด
พบว่ามีประชาชนยื่นเสนอความต้องการมามากถึง 3,125 เรื่อง ในจำนวนนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อส่งต่อให้ระดับอำเภอรับช่วงไปพิจารณา ปรากฎว่าทั้ง 6 อำเภอ รับไปดำเนินการเองมา%
Comments
comments