วันนี้ (18 เมษายน 2562) เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. บริเวณเทวาลัยพระพรหม เขตอำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้มีเครือข่ายสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จังหวัดชัยนาท อุทัยธานี พิจิตร สิงห์บุรี นครสวรรค์ กว่า 300 คน เดินทางด้วยรถไถนาขนาดเล็ก (รถอีแต็ก) และรถยนต์กระบะ จำนวนกว่า 60 คัน มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร โดยมีจุดหมายอยู่ที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางสาว ศศิรัตน์ พันธ์พลกลาง อายุ 50 ปี ชาวชัยนาท แกนนำในการเดินทางครั้งนี้กล่าวว่า เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับปากกับสมาชิกกองทุนว่า จะเข้ารับซื้อหนี้สินของเกษตรกรที่มีปัญหาหนี้สิน โดยเปลี่ยนเจ้าหนี้จากสหกรณ์การเกษตร เป็นกองทุนฟื้นฟู ซึ่งมีมูลค่าหนี้กว่า 100 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้ปฏิบัติตามที่รับปากไว้ จึงเป็นเหตุให้ต้องนำสมาชิกกองทุนเข้าร่วมเดินทางทวงถามสัญญา โดยร่วมกับ กฟก.กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี กดดันและทวงถามสัญญา โดยยืนยันว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง
ต่อมา นายศิริชัย ศรีเหนี่ยง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี พร้อมด้วย พลตำรวจตรีชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี พ.อ.อภิชาติ วรุณโน ผบ.กกล.รส.จว.สิงห์บุรี และ พ.อ.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ ผบ.กอ.รมน.จว.สิงห์บุรี ได้เดินทางเข้าเจรจากับแกนนำ พร้อมขอให้ยุติการเดินทาง โดยนางสาวศศิรัตน์ ได้เข้าพูดคุยเจรจา ยื่นข้อเสนอขอพักค้างแรมที่บริเวณปั้มน้ำมันร้างริมถนนสายเอเซียตรงข้ามกับเทวาลัยพระพรหม 1 คืน เพื่อรอฟังคำตอบจากรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ
หากยังไม่ได้รับคำตอบก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพ ในเช้าวันพรุ่งนี้ต่อไป โดยขณะนี้ก็มีกลุ่มสมาชิกกำลังเดินทางมาสมทบอีกกว่า 40 คัน โดยท่านศิริชัย ศรีเหนี่ยง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลความสะดวกและความปลอดภัย และการจราจรให้รถเคลื่อนตัวไปได้อย่างสะดวก
และผลจากการเดินทางของกลุ่ม กฟก.ครั้งนี้ ส่งผลให้การจราจรบนถนนสายเอเซีย ช่วงด้านหน้าเทวาลัยพระพรหม การจราจรติดขัดระยะทางยาวกว่า 8 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันระบายรถยนต์ออกเส้นทางรอง เพื่อลดจำนวนรถยนต์ ที่คาดว่าจะมีปริมาณสะสมมากขึ้น
BY : กองบรรณาธิการ แฟนเพจ Singburi Review ในเครือ 🌐 THAI TIME 📡 [ www.thaitimeonline.com ]