บันทึกตำนาน..ศาลเจ้าพ่อสามพันปี จรเข้ใหญ่..คุ้มครองชาว อ.อินทร์บุรี

           จากหนักเป็นเบา ที่เบาก็ให้ทุเลาแคล้วคลาดรอดพ้นอันตราย……..จึงกลายเป็นความเชื่อ ที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพชน

          คำถามคือ เจ้าพ่อสามพันปีเป็นใคร⁉️ ทำไมศักดิ์สิทธิ์นัก…… คำตอบที่ได้รับจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ในฐานะเจ้าของพื้นที่บอกเล่าตำนานให้เราฟังว่า…..เห็นศาลเจ้าพ่อพันปีมาตั้งแต่เกิด ส่วนใครเป็นผู้สร้างนั้น ไม่ทราบแน่ชัด รู้แต่ว่ามีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่า เจ้าพ่อสามพันปีไม่ใช่คนแต่เป็นจรเข้ใหญ่ ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองบริเวณนี้ให้ปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง

          แรกเริ่มเดิมที บริเวณที่ตั้งศาล..เคยเป็นคลองขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อไปยังหลายตำบลในอำเภออินทร์บุรี..เป็นคลองธรรมขาติที่กว้างใหญ่มาก เชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือสินค้าใช้เป็นเส้นทางล่องไปยังลพบุรีได้ (ปัจจุบันเป็นบ้านเรือน ไม่เหลือสภาพคลองแล้ว)

          พอล่องเรือมาถึงบริเวณนี้ มักจะพบจรเข้ยักษ์เกยตื้นนอนนิ่งอยู่บนตลิ่ง โดยไม่ทำร้ายใคร จนกลายเป็นความเชื่อกันว่า…..นี่คือเทพหรือเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง ที่ถูกส่งมาให้คอยทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาอาณาบริเวณนี้ ใครก็ตามที่ล่องเรือผ่านมา จะต้องแวะกราบไหว้ จุดธูป จุดเทียนปักไว้ริมตลิ่ง..บอกกล่าวเพื่อขอให้เปิดทาง ไปทำมาค้าขายปลอดภัย-แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง……

          หลักฐานที่ยืนยันว่า เจ้าพ่อสามพันปี เป็นจรเข้ขนาดใหญ่ก็คือ เคยพบโครงหัวกระโหลกหัวจรเข้ใหญ่มาก ชาวบ้านจึงพร้อมใจตั้งเป็นศาลเพียงตาขึ้นมา แต่เนื่องจากเป็นจุดที่น้ำท่วมอยู่เป็นประจำ ทำให้หัวกระโหลกจรเข้เจ้าพ่อสูญหายไป ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะจมอยู่ใต้ดินบริเวณแถวนี้ เพราะคลองมีความลึกมาก

          ส่วน เจ้าแม่ปิ่นทอง..ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเป็นใครมาจากไหน..เป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า น่าจะเป็นภรรยาของเจ้าพ่อสามพันปี

            ทุกวันนี้ยังมีผู้เคารพนับถือแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรกันมิได้ขาด……ขนาดขบวนแห่นาคที่จะไปบวชพระที่วัดเฉลิมมาศ ยังต้องแวะมากราบไหว้ก่อนเคลื่อนขบวนผ่านไปทุกราย

           หากใครผ่านไปแถวๆ วัดเฉลิมมาศ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี ก็แวะไปกราบไหว้ขอพรกันได้….ปัจจุบันมีการบูรณะปรับปรุงศาลอย่างสวยงาม ยกพื้นสูงหนีน้ำท่วมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.